วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

อินทิญานสอนลูก






ก่อนอื่นก็ขอกล่าวคำว่าสวัสดี ศิริสวัสพิพัฒธนมงคลกับทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความของผู้เขียน แม้จะห่างหายจากการเขียนไปนานระยะหนึ่งแต่ในที่สุดก็ได้กลับมา ซึ่งบทความตอนนี้เป็นสุดยอดวรรณกรรมฝีมือการประพันธ์ระดับบรมครูจากหนังสือผูกตัวอักษรไทยน้อย ที่มีความหนา ๔๖ ลานเท่ากับ ๙๒ หน้าใบลานขนาดยาวหน้าละ ๔ บรรทัด แต่ก็ไม่อาจหาที่มาได้ว่าใครเป็นผู้ประพันธ์ เพราะมีการคัดลอกต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยเนื้อหาจะเป็นคติธรรมที่ใช้สอนผู้คนได้เป็นอย่างดี ส่วนมากจะเน้นไปที่การสอนผู้หญิง ในเนื้อเรื่องได้ปรารภถึงตัวละครชื่อว่า "อินทิญาน" ทำหน้าที่เป็นพ่อ มีลูกสาวคนหนึ่งชื่อว่า "นันทา" ซึ่งอินทิญานผู้เป็นพ่อนั้นเป็นนักปราชญ์ที่มีความรอบรู้ในสรรพวิชา ที่ได้ชี้แจงผ่านบทประพันธ์อันไพเราะมีความลุ่มลึกสุขุมคัมภีรภาพด้านภาษา เพื่อให้ลูกสาวได้มีความเข้าใจในเรื่องบาปบุญคุณโทษ นรกสวรรค์ตลอกจนลัทธิความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามต่างๆ และในตอนท้ายได้มีบทพระเตเมย์ใบ้และปัสเสนที่มีการผูกคำถามและคำตอบเป็นเชิงพุทธพยากรณ์ ซึ่งดูเหมือนว่าเหตุการณ์หลายๆอย่างได้เกิดขึ้นมาแล้ว กำลังเป็นไปอยู่ และจะค่อยๆเป็นไปในวันข้างหน้า ยังไงก็ขอเชิญทุกท่านได้ทัศนาด้วยปัญญาอันยิ่งของแต่ละท่านดูเถิด

"เตือนสติ"

"บัดนี้ เฮียมจักปรารถนาตั้ง  แปงสารให้เห็นห่าง กระบวนเนอ
พอแต่บักง่ามไว้   แปงท่างใส่ฮาง อุ่นเอ้ย
โอนอ สาวเอ้ยขนบ่ทันปกหน้า  อย่าได้แหมหุนแล่น
ปีกบ่ทันหุ้มก้น  อย่าท้าแต่สิขัน
เขาบ่โซงเพียงด้าม  อย่าแสวหัวแกว่ง
หางไป่ลากกีบน้อย  อย่าป้องแม่เซิง นั้นเนอ"

"ให้เคารพผู้มีพระคุณ"

"บัดนี้ พ่อจักสอนนางน้อย  นันทาให้เจ้าจื่อ เอาเนอ
ให้เจ้าจำคำสอน   จื่อไปเมือหน้า
พ่อหากจุตติแล้ว   ตายไปลดซั่ว
ศรีแจ่มเจ้า   เอาแข่วขอดแหวน พ่อเนอ

อันหนึ่ง คำปากพ่อแม่นี้   หนักเกิ่งธรณี
ไผผู้ยำแยงนพ   หากสิเฮืองเมือหน้า
อันหนึ่ง เฮือไหลแล้ว  ขอนยังดอมท่า
ไฟหากไหม้ป่าไม้ ดอนเนื้อหากสิยัง
อันหนึ่ง สัพพัญญูเจ้า นิรพานลดซั่ว ปางนั้น
ยังแต่ลูกศิษย์แก้ว อานนท์เจ้าสืบมา พ่อแหล้ว
อันหนึ่งคนยอย้อง ปราเกียรติ์ทั้งโลก
ยังเล่ามีพระบาทตั้ง คลองไว้สืบมา"


"ให้ระวังความคิด"
"บัดนี้ พ่อก็แยงแก่นแก้ว นางน้อยใหญ่สูง
ฟังเยอ สมสะอาดน้อย นันทาทิพฮูป พ่อเอ้ย
พ่อจักบอกให้ฮู้ ยามเมื่อตาเห็นนี้เน้อ
ทำคลองคน อย่าโงใจส้ม
อย่าได้ใจเพี่ยง เขาฮอข่มขื่น
คำคึดอย่าม่อตื้น เสมอหม้อปากบาน นั่นเน้อ
ใจให้คึดเถิ่งพื้น เสมอบัวยมหยั่ง
ใจให้อ่อนสิ่งฝ้าย หลายล้อยืดยาว
ใจให้ขาวคือน้ำ คุงคาวังใหญ่
อย่าได้เป็นสิ่งหม้อ หมองเม้าทั่วคีง พ่อเน้อ
ยามเมื่อวาจาต้าน พอหูหอมม่วน
ยามจักไขปากเว้า อย่าพ้นเพิ่นหลาย"
"ให้ระวังคำพูด"
"อันหนึ่ง อย่าได้ธรรมเนียมเพี่ยง หัวเพียงบักเซียงอึ่ง นั่นเน้อ
มันหากเส็งแต่ฮ้อง คำเว้าฆ่าโต แท้ด๋าย
ให้ค่อยพิจารณ์แจ้ง ธรรมเนียมนักปราชญ์
หากอยู่หากซ่างเว้า อรอ้วนม่วนหู
เป็นที่ให้เพิ่นย้อง ยอนางมักวาด นั่นเน้อ
บัณฑิตเจ้า สงวนสู้ซื่นซม พ่อแหล้ว
อย่าได้ขัวๆฮ้อง เสมอกากินเหยื่อ
อย่าได้เป็นดังนกไซ่ฮ้อง เสียงเข้มข่มแข็ง นั่นเน้อ
เพินบ่ยินดีด้วย ดอมนางเสียปาก
คลองถ่อยฮ้าย ฝูงนี้อย่าเฮียน พ่อเน้อ
อันหนึ่ง อย่าได้ผู้ใบ้ เป็ดห่านหัวเขียว นั่นเน้อ
มันจักไปเสยเสีย เมื่อลุนอายหน้า
อันว่าคำระหัสนี้ อย่าได้ไขเว้าม่อ
เพิ่นจักไปกล่าวเว้า กลางบ้านเบิกบาน
มันก็อาลัยถิ่ม เสียใจดอมเพิ่น
ลูกแตกออกจากท้อง มันเลี้ยงบ่เป็น
เป็นคนให้ ธรรมเนียมนำไก่ นั่นเน้อ
หากซ่างอยู่หากซ่างป้อง ปองให้ใหญ่สูง
ทำคุณสร้าง อย่าเสียใจดอมเพิ่น
แม่นสิได้ถ่องเสี้ยว ถนอมไว้อย่าไล
ซาติที่หางงอเฒ่า หมาพานเคยคั่ว
คันว่าถืกกลิ่นเนื้อ คลองนั่นบ่วาง"

"นิทานค่างเจ้าเล่ห์"
"เฮาหากเห็นหลายเบื้อง นิทานปางก่อน
ยังมีแม่วอกฮู้ แฮมเฮื้ออยู่ดง
มีลูกน้อย ยังอ่อนในฮัง
มันก็ขวนขวายหา สู่วันมาเลี้ยง
แต่นั้นยังมีเซื้อ หางยาวอ้ายค่าง
มันก็เป็นปอบฮ้าย เขาซ้ำส่งหนี
มันก็เดินดงพ้อ สองเขือแม่ลูก
เห็นอ่อนน้อย เลยคุ้มอยากกิน
มันก็ขออยู่เลี้ยง ประชิดฮ่วมเอียงฮัก
พันธะไมมิตร บ่มีมายม้าง
แต่นั้นนางลิงต้าน ขานคำซมซื่น
เลยเล่าฮักขอดแม้ง ขานข่อขอบคุณ
เมื่อนั้นผีบอปฮ้าย อ้ายค่างยินดี
มันก็ขวนขวายหา สู่วันมาเลี้ยง
ดูนานแท้ หลายวันคึดอยาก
มันก็ติโยกเว้า ลิงนั้นให้ไป
บัดนี้ยังมีหมากไม้ ก้ำฝ่ายภูสูง
เฮียมก็ขวนขวายมา สู่วันเลิงเรื่อย
นางจงเอาไปถ่อน อย่านานมื้ออื่น
อันว่าลูกอ่อนน้อย เฮานี้อยากกิน
โอ้น้อกรรมสุดแท้ บุตราลูกอ่อน เฮานี่
ยามเมื่อไห้ฮ่ำฮ้อง เป็นน่าอิ๊ดู แท้แหล้ว
แต่นั้นหางยาวอ้าย ลิงกังผีบอป
มันก็จีกอ่อนน้อย กินแล้วเล่าหนี
ยามเมื่อนางลิงผ้าย ดงดอนมาฮอด
ก็บ่เห็นอ่อนน้อย ทวงม้างแตกตาย สาแหล้ว"


"งานประจำแม่บ้าน"
"อันนี้คำขุนเฒ่า อาจารย์นักปราชญ์
ชักให้นันทะนาถน้อย ฟังถ่อนฮ่ำเพิง พ่อน้อ
เป็นคนให้ ลักขณานามเต่า
เมี้ยนไข่ไว้ ดีแล้วจึ่งหนี
บ่กว่าล้ำ ในแห่งคำคึด
ซาติที่เป็นคนหญิง อย่าวางหลาฝ้าย
ยามได๋เจ้า จักลีลาเมื่อบ่อน สินอนนั้น
คึดให้แจ้ง ดีแล้วก็จั่งนอน พ่อเน้อ
อันว่ายามนอนให้ หายามขอบเมื่อ
ให้เจ้าฟังไก่ผู่โจ้น ขันซั้นเทื่อสาม นั้นเน้อ
ยามนอนให้ แปงตนนิทเน่ง
มับแมบเมี้ยน อย่าได้ป่วงขา พ่อเน้อ
ยามเมื่อยางนั้น ให้คอยหล่ำดูตีน
อย่าปะปิงปะปวงปบ บ่ดีแก่ตาเฒ่า
อย่าเค็งๆพื้น เทิ่งหัวพ่อแม่ นั้นเน้อ
คลองหมู่นี้ เวรแท้บาปมี พ่อแหล้ว
ให้เจ้าลุกแต่เซ้า ปุนแต่งจังหัน พ่อเน้อ
ยามเมื่อบายของทาน ส่วยสีผะสงค์ล้าง
กินทานนี้ ทำตนให้ประณีตยิ่ง
ผมเกศเกล้า เคียนไว้อย่ามาย
ให้ค่อยทำเพียรตุ้ม เสมอยูงซมเหยื่อ
อย่าได้เฮ็ดตุเตื้อ ตีนสิ่นเกี่ยวภาช์ นั้นเน้อ
อันว่าบาปหมู่นี้ ไผห่อนหวลเห็น
ซาติที่เงาเทียมตน บ่ห่อนบายเอาได้
ให้ทานนี้ แวนดีปกห่อ ดีแหล้ว
ให้ส่วยล้าง มือเจ้าให้ดี นางเอ้ย
ให้เป็นลักขณาแท้ นำคลองนักปราชญ์
ใจฉลาดแล้ว มือเจ้าให้ฮีบบาย
อันว่ายามอยู่ห้อง ในที่เคหัง
ให้เจ้าแปงกระบวนโฉม สิ่งเฮือซาวค้า
อย่าได้แปงโตให้ เสมอคือเฮือส่วง นั้นเน้อ
ฝูงอยู่ใกล้ เห็นพื้นเพิ่นสิซัง พ่อแหล้ว
ให้ซ่างบ้อน เสมอดั่งปลาดุก
อย่าได้แปนคุยลอย ดั่งปลาซิวอ้าว
ให้ค่อยทำเพียรสร้าง เสมอแตนแปงซ่อ
ให้ก่อสืบไว้ เสมอเผิ่งสืบฮวง
ยามเมื่อมีใหม่แล้ว ผะสงค์แพงของเก่า
เก็บห่อเมี้ยน แพงไว้อย่าไล
อันหนึ่งวัตถังผ้า อาภรณ์ผืนใหม่
ซัดต่ำแล้ว แวนเมี้ยนให้ดี
ยามได๋ได้ เต็มถงอย่าได้อ่ง
หายามดี ปาดเอาไปเมี้ยน
ทำตนให้ เสมอเพียงนกเจ่า
ยามเมื่อบินแอ่นผ้าย ขาวแจ้งก็จังเห็น
ทำตนให้ ลักขณานามปวก
ยามเมื่อทุกขะมอดไฮ้ อย่าแค้นคั่งทวง
ทำตนให้น้อม มัสการผู้ซ่าง ดีแหล้ว
หากซ่างอยู่หากซ่างอ้น คูณให้ใหญ่สูง
อย่าได้หย่ายๆหาง ดั่งยูงเทียวฟ้อน
ลมบ่มาพัดต้อง อย่าเปื้องปิ่นหาง นั้นเน้อ
ให้เจ้าเอาสมเพี่ยง ธุงซัยซ้องพะเนตร
เถิ่งเมื่อยามแลงแล้ว กองครัวให้ฮีต พ่อเน้อ
ยามเมื่อทรงกระจรต้าง ถือลานให้พอค่อง
อย่าได้ลูบแต่เกล้า ผมนั้นซุ่มเลิง
อันหนึ่งจำมั่นไว้ มาลาหอมกลิ่น
อย่าได้เป็นดั่งซ่้าง พลายน้อยออกงา นั้นเน้อ
อันหนึ่งอย่าได้กวัดแกว่งเบื้อง แขนข้อเป็นกระดัด
อย่าได้เซิมเซอะผม เปลี่ยนนำนางท้าว
มันบ่ดีแก่ตาเฒ่า บูฮานปางก่อน
ทำให้เป็นดั่งสายยอย ซังคำซาเป้ง
ยามเมื่อลีลาย้าย แปงเซิงให้มันค่อง
อย่าได้เป็นเตเซ ดั่งเฮือนหลังฮ้าง นั้นเน้อ
ยามเมื่อแปงสะนอนนั้น เสมอฮังนกกระจอก ดีด๋าย
อย่าได้เป็นดั่งอ้ายปากก้วง โตฮ้ายนกกระบา นั้นเน้อ
ซาติที่โคงควายฮ้าย ไผเห็นก็หากถ่ม น้ำลายแหล้ว
มันหากยังแต่แฮ้ง กาเฒ่าสิเกือกฟูม
เพิงที่แปงสถานเพี่ยง นทีหลวงสมุทรใหญ่
มีบ่ไฮ้ หลายห้วยหลั่งโฮม
ไผผู้ทำใจก้วง โวหารไขปาก
ของฝากเจ้าก็หากล้น ลือไฮ้กีดสะนอน
พอเมื่อตาวันค้อย อย่านอนหัวค่ำ
ฮีตหากตั้ง มาแท้ตั้งแต่ได๋"

"ธรรมเนียมหนุ่มสาว"
"ซาติที่แนวนามบ้ง แปนโตกาสิตอด กินแหล้ว
เฮ็ดให้เป็นสิ่งม้อน ใยหุ้มห่อโต พ่อเน้อ
อันหนึ่งกลางคืนให้ เข็นไนให้มีคู่
อย่าโอดอ้าง ทอนท่อผู้เดียว พ่อเน้อ
อันว่าโจรมารนี้ ใจหายเห็นเปลี่ยว
ซาติที่นอนป่าฮ้าย แปงห่างให้สูง
อันหนึ่งให้เจ้าเยืองตามใต้ เฮืองแสงให้เห็นฮุ่ง
อย่าได้มุดมอดไว้ กระบองนั้นอยู่ดำ พ่อเน้อ
เยืองว่าผิดตาเฒ่า คลองมีบ่นำฮีต
ซาติที่แนวยอดไม้ งวงซ้างหากสิบาย
ยามเมื่อเคี้ยวหมากนั้น ตาอย่าเหลือกไปไกล
ให้เป็นดังใบพะเนียงไถ บ่ห่อนเบือนมือซ้าย
ยามเมือยอแขนเปื้อง ไปมากวัดแกว่ง
ตาแจ่มเจ้า ซอมไว้ซัวไกล แนถ้อน
ยามใด๋ได้ ยินแคนกับขลุ่ย มานั้น
ฝูงบ่าวน้อย เทียวเล่นค่ำคืน
ขับแอ่นฟ้อน ทังอ่านหนังสือ
อย่าได้ขัวๆเสียง ดอมซายซงใกล้ นั้นเน้อ
เพิงที่ให้สงัดไว้ แปงเซิงให้มันค่อง
ซาติที่นกจาบฮ้าย เห็นข้าวแต่อยากดอม พ่อแหล้ว
ให้เจ้าทำเพศไว้ คือไผ่หนามหนา หั้นถ้อน
ซาติที่ไซคันหลัง หากสิมีปลาต้อง
อาหารเต็มภาช์ข้าว อันใด๋มีให้เจ้าเบิ่ง ดูถ้อน
เจ้าอย่าได้กินแต่ซิ้น ปลานั้นปล่อยเสีย พ่อเน้อ
อันหนึ่งตามคลองตั้ง ภาษาสาวบ่าว
เจ้าอย่าได้ขรึมเพศไว้ กระบวนหน้าบ่งาม
เป็นสาวนี้ แปงเซิงให้มันค่อง ดีด๋าย
สิ่นบ่ทันเก่าเกี้ยง อย่าให้ขาดกลาง นั้นเน้อ
อันว่าเงินเบิดแล้ว ขวัญยังดอมไถ่
เสื้อขาดแล้ว เซิงนั้นให้แพง พ่อเน้อ
อันหนึ่งอย่าได้โลภาพ้น ตัณหามักพาบ
มันบ่เป็นแว่นแก้ว อย่าได้ล่ำแยง
อย่าได้วางเสียแก้ว มุงคุลของเก่า ดีนั้น
นิสัมมกรณังเสยโย พิจารแจ้งค่อยทำ
อันว่าภาษาเซื้อ แนวเสืออย่าได้แอบ เอาเน้อ
คำผู้เฒ่า เอาไว้แทบทวง แนถ้อน
อันว่าสัจจะน้อง อย่าได้จงจางจืด นางเอ้ย
ให้เจ้าแอบเอาแต่เซื้อลูกซ้าง มาสร้างสืบเฮือน
อันหนึ่งสาขาไม้ ลำเดียวปล้องยังต่าง กันเน้อ
แม่นว่าเป็นพี่น้อง ใจเลี้ยวก็หากมี
แก้มหากติดอยู่แคมปากเจ้า ใจน้อยอย่าหลง
อันว่าเคยเลิงแล้ว อย่าได้เปียวใจม่อ
ซาติที่มัจฉาเทียวทางน้ำ หากหวลหาแต่แก่ง
อันหนึ่งวัตถังผ้า แพรขาวผืนขนาด
นักปราชญ์เจ้า แพงไว้ห่อคำ
หญิงใด๋ทำการสู้ หลายคนมักพาบ
หญิงนั้นเป็นดังไซใส่แล้ง ปลายไม้ถืกแต่ลม
เป็นดังศาลาก้วง ทางหลวงก้วงใหญ่
ซู่คนซู่แวเข้า เซาแล้วก็เล่าหนี พ่อแหล้ว
หญิงใด๋โมโหด้วย ตัณหาฮ้อนเฮ่ง
เป็นดังสระใหญ่น้ำ ซาวค้าหากสิโฮม
ไขฝาไว้ วันศิลใส่บาตร
ตามแต่ไผอยากขึ้น เมือฟ้าหากสิทาน
เห็นว่าดีกะตาแล้ว อย่าเผลอใจม่อ หลายเน้อ
ซาติที่แนวต่อตุ้ม กลายใกล้ให้เจียม
อันหนึ่งเป็นดังพาโลฮ้าย หญิงโถงมักพาบ
ปางนั้นเป็นดังลูกกุมพีดเซื้อ งามแย้มยิ่งเขียน"
"นิทานแลนโมน"
"ยังมีปุโรหิตท้าว อาจารย์นักปราชญ์
มากล่าวเว้า เป็นชู้ชอบเชิง
สองหมายมั่น พันปีเป็นเขต
พันธะมิตรไว้ อย่าได้ฟ้าวเฟื้อมมาย
ปุโรหิตตั้ง ใจจงคิดห่อ ดอมนั้น
ก็บ่คิดโลภเลี้ยว พอล้ําลื่นคลอง
แต่นั้น ยังมีบุโรหิตเชื้อ ชายโจรใจบาป
มันก็คิดอยากได้ นางน้อยกล่อมนอน
มันก็คิดใคร่แม้ง ชิงยาดปุโรหิต
มันก็เอาแลนโมน ป่าดงมาเลี้ยง
มันก็ทําเพียรเลี้ยง แลนโมนเลยใหญ่
มันก็แปงหน้าไม้ ปืนพร้อมพร่ําแหลม
คันฮุ่งแล้ว มันฮีบเดาดา
เอาแลนโมน ใส่ถงดีแล้ว
มันก็บายเอาหน้า ทั้งถงเฮวฮีบ
คอนผ่าบ้าน ไปแท้ให้เพิ่นเห็น
มันก็แลล่ําเข้า อรัญญาในป่า
บัดนี้ จักกล่าวถึงบัณฑิตผู้ อาจารย์ชู้เก่า
ก็เลยตั้งแต่งเฒ่า ไปเว้ากล่าวโอม
กะฎุมพีดเฒ่า ฟ๎งแล้วเล่าขีน
บ่ใช้บุญสมภาร อย่าจาจงต้าน
แต่นั้น บัณฑิตซ้ํา ไปโอมสามเทื่อ
กะฎุมพีดต้าน คําแม้งว่าบ่เอา
อันว่า บัณฑิตนั้น นอนเว็นมื้อฮ้อยเทื่อ
เวียกบ่ได้ ทําเว้าแต่ผญา
กูบ่มีช่างฮู้ เคยฮ่วมบัณฑิต
ชาติที่แนวอาจารย์ ปากเป๐นผญาเกลี้ยง
บ่อยากคัวเสียแหล้ว อาจารย์ผอกเพดอ่ง
บอกบ่ได้ เพาผ้าผอกเหม็น นี้เด๊
แต่นั้น นายพรานเลี้ยง แลนโมนชมชื่น
มันก็ไปซู่มื้อ เอาซิ่นยื่นมือ แท้แหล้ว
เฮียมก็คิดฮอดเจ้า กินแลงก็บ่แซบ เสียแหล้ว
อ้ายก็เอาต่อนซิ้น มาต้อนต่อนเสน่ห์ อุ่นเอ๊ย
แต่นั้น หลายวันได้ หลายคืนไปกล่าว ขอแหล้ว
กะฎุมพีดเฒ่า หัวย่ามว่าบุญ แท้แหล้ว
โอนอ อันนี้บุญเคยได้ สมภารคุณพ่อ นางเอ๊ย
พ่อบ่ขีนแห่งเปื้อง บูฮานเจ้าสิปลูกแปง พ่อแหล้ว
แต่นั้น พ่อบ่ช้า กับก่ายอะวาหะ
อาวาโหเขา แต่งดองเขยแก้ว
แลนโมนนั้น มันกินดองกะฎุมพีด
ฮีบบ่ช้า เลยเข้าแต่งดอง
แต่นั้น เขาก็คองกินซิ้น ดอมเขยไปป่า
ทุกค่ําเช้า มาแล้วเปล่าดาย
อันว่าเวียกบ่ได้ กวนแท้แต่เหล่าดง
มันก็ไปซอกไซ้ แสวงเข้าคั่วดง
ก็บ่เห็นสังแท้ คืนมามือเปล่า
อันว่า มื้อวานนี้ อี่เฮียมยิงใกล้สะแหม่ง
มันหากถืกง่ามไม้ ปืนแห้งบ่เถิง
พอฮอดมื้ออื่นเช้า มันเล่าเลยไป่
เถิงยามแลงไปแปน แต่มือมาเว้า
มันว่าเหนนอนมุ้ง อี่เฮียมยิงใกล้สะแหม่ง
ผิว่าปืนใส่หน้อง เหนอ้มส่วนสิตาย แท้แหล้ว
เขาก็คองกินซิ้น หางแลนท้องสิโข่ง
ขนบ่ค้าง มือแท้เปล่าดาย
ก็บ่มีนานแท้ ผัวเมียเลยห่าง กันแหล้ว
มันจึงมาใส่ฮ้าง หญิงไว้เวทนาจิต เจ้าเอ๊ย
มันก็ตัวะยัวะให้ เสียโฉมฮูบฮ่าง
นมตุ่มตั้ง ยานห้อยหล่าโฉม
ก็จึงคึดอ่าวโอ้ เถิงเมื่อภายลุน
โอนอ หมอผู้ดีเอ๊ย บ่แม่นเวรท่อนั้น คือสิได้กล่อมเสนห์
โอนอ เสียดายแก้ว อาจารย์ชู้เก่า กูเด๊
กูบ่เห็นแก่ซิ้น สิหวังได้กล่อมแนน
หญิงได๋มักโลภฮ้าย เห็นชายดิ้นดั่น
คันชายจาแต่ละน้อย สงวนสู้ง่ายดาย
อย่าได้ทําโถงลิ้น หลายชายมักพาบ
ตามวาดไว้ ปลาสิเต้นใส่หลุม พ่อแหล้ว
สิบคนให้ คนิงนําแต่ผู้หนึ่ง พ่อเนอ
คันตาเจ้าเบิ่งดีแล้ว ใจนั้นให้ฮ่ําเพิง
อันนี้ นิทานเรื่อง นายพรานใกล้สะแหม่ง
เพิ่นกล่าวเว้า ปางนั้น สืบมา
อันนี้ พูชัยท้าว นักปราชญ์โพธิญาณ
เอามาเป็นคําสอน ลูกสาวปางนั้น
ฟังเยอ สาวส่ำน้อย ฝูงไป่มีผัว
ให้ค่อยฟ๎งคําเฮียม หากสิเฮืองเมือหน้า
อย่าได้พาโลหลาย พาบชายเชิงชู้ นั้นเนอ
อย่าได้หวงแหนชู้ ชูชายชิงยาด กันเนอ
ตามวาดไว้ อย่าเฮฮ้อนเฮ่งประมาณ
สิบคนให้ คนิงหาผู้หนึ่ง สีดาเอ๊ย
บ่เฮ่งฮ้อน ใจเจ้าให้ฮ่ำเพิง พ่อเนอ
อันหนึ่ง แสนหน่วยแก้ว คูนแท้หน่วยเดียว
ทั้งเมืองแท้ ยังมีคูนสามหน่วย
เป็นที่ยั้ง ทั้งค่ายโลกลือ พ่อแหล้ว
อันหนึ่ง หมูกวนข้าง ใจคนค้อยคั่ง
ชาติที่ผัวขี้เหล้า เงินเบี้ยบ่แก่นถง
เพิงที่เอาผัวให้ หาแนวนักปราชญ์
ผู้ฉลาดฮู้ ครูแก้วสั่งสอน แท้ดาย
ฮีตบ่มีล่วงล้ํา คลองแห่งบัณฑิต
แม่นว่าทําคลอง คนบ่ลอนพอฮ้าย
อย่าได้หวงแหนเชื้อ ทระพีป้องหมู่ นั้นเนอ
มันหากเปื๒องแกว่งเล่น มันแท้แต่เขา หั้นแหล้ว
หวังจักคลองกินย้อน หางยาวก็ยินยาก
มันก็บ่สู้บักก้อม หางสั้นคั่วหมาน แท้นา
บัณฑิตนี้ เห็นกายินหน่าย
ตัวหากเป็นผู้ฮู้ เอาห้อมใส่คีง
มันหากหวลเห็นใกล้ โครงควายตายห่า
ฮุ้งหากหยุมปิ๑นเปื๒อง กาไห้ก่ําดํา

ชาติที่โรคาฮ้าย ในคีงฮ้อนเฮ่ง
ไผคะลําบ่ได้ มันสิฮ้ายเมื่อลุน
ฟ๎งเด๊อ สมสนิทสร้อย นันทานงถ่าว
พ่อจักสอนสั่งให้ นางน้อยจื่อจํา ไว้เนอ
ชาติที่ตัณหานี้ ใจอย่าฮ้อนเฮ่ง หลายเนอ
แฮงแต่เห็นง่ายได้ กินแล้วอย่าเลิง แท้แหล้ว
อย่าได้กินเลิง ๆแล้ว หลายเทื่อติดใจ
กลัวแต่กินอิ่มแล้ว มันสิโอ้เมื่อลุน
ตามแต่บุญแห่งเบื้อง ภายหลังนําส่ง
ตามแต่บุญก่อนกี้ นําให้ส่งเถิง
มันหากอักโขล้น หญิงชายในโลก เฮานี้
ไผบ่มีอยู่ค้าง นอนแล้งเปล่าดาย ดอกนา
บัวบ่มีหนีน้ํา หมายฟูมเท่าชั่ว ชีวังแหล้ว
พระจันทร์บ่มีพรากข้าง แสงล้อมเหลี่ยมเสมร
ชาติที่คลองถิตเบื้อง เทียมแนนรือหลีก เป็นรือ
ราหูบ่ห่อนคละคลาดฮ้าง ฮามแก้วหน่วยพระจันทร์
ชาติที่ดวงหอมนี้ บานดายแล้งเปล่า เป็นรือ
ความคึด แมงภู่ยังท่อฟ้า สิหมายเมี้ยนกระดูกดอม
บ่ได้เป็นที่คําอุกเอ้า คําสิเอาเป็นคู่ นางเอ๊ย
บุญหากมาฮอดแล้ว ยามนั้นจึ่งเอา
ฝูงผู้เฒ่า เคยเห็นหลายเทื่อ มาแหล้ว
ไผบ่เฮียนฮ่อมเบื้อง คลองเฒ่าถ่อยคน
งูอย่าขีนใจแข้ หางยาวเสมอพาบ กันแหล้ว
มีดอย่าหวังหน้าด้าม คมสิเป้ก่อนสัน
อย่าว่าโตกระดัดถ้อน อุนอูบ่หาฮ่อม
เส็งแต่ได้กล่อมกลิ้ง ใจฮ้อนฮีบประสงค์
เยียวบ่ดีเมือหน้า เสนหาเลยห่าง กันนั้น
ฮักแต่ยามเมื่อเว้า คราวน้อยหนึ่งหาย บ่ฮู้
เอาแต่ตาเบิ่งเบื้อง เป็นมาแต่ปางก่อน
ตามแต่บุญเน่งเบื้อง นําให้จึ่งสิดี แท้ดาย
เป็นหญิงนี้ เอาผัวคลองหากง่าย ก็ใจรือ
เอาบ่เป็นประโยชน์นี้ เข็ญฮ้ายฮ่วมสินอน หั้นแหล้ว
อันว่า มีผัวแล้ว บ่กลัวยําย้านเฒ่าทั้งหลาย อย่าว่า
ลิ้นมันหากเจ็บคอบแข้ว น้ําตาย้อยย่าวเลิง
หญิงใด๋ฮู้ มีใจแว่นถี่
เกรงแต่ทุกข์เมื่อเฒ่า คําเว้าบ่เหือดหู พ่อแหล้ว
นกบ่ยินดีเล่น สาขาบ่มีง่า อวนเอ๊ย
สระบ่มีดอกไม้ คณาเนื้อบ่สงวน
หญิงใด๋ ได้ ผัวดีผู้นักปราชญ์
เป็นที่คนกล่าวย่อง ทั้งค่ายโคตรวงศ์
จักมีคําสุขล้น อยู่สบายบานยิ่ง
ฝูงพี่น้อง หลายเบื้องหุ้มหอม
เป็นดั่งยุคันธรตั้ง เฮียงเสมรเขาใหญ่
ฝูงหมู่มฤคราชเนื้อ เดินเข้าขาบถวย
อันหนึ่ง พ่อจักอุปมาไว้ ฝูงสาวให้เจ้าฮ่ํา คนิงถ้อน
พ่อจักสอนสั่งให้ เฮียมฮู้ฮ่อมหญิง
ไม้บ่ทันแทกด้าม อย่าฟ้าวกล่าวหอนตัด
เยียวบ่เถิงภายลุน เคิกมือเมือหน้า
มันหากผากฎแล้ว ใจบุญนักปราชญ์
เลือกหมู่ไม้ ดงกว้างหมื่นลํา
บุญแฮงได้ ลําศรีมหาโพธิ์
ยังเล่าวิเศษแท้ เงาคุ้มขอบเมือง
เป็นที่ยั้ง ในโลกทั้งสาม
มีแต่ลําเดียวแท้ อักโขล้นยิ่ง
ชายแสน ฮ้อยประเทศบ้าน มีแท้ผู้เดียว
เป็นที่ถืกโศกแท้ พร้อมพาบลักคนา
นันทาเอ๊ย ค่อยคนิงดูถ้อน
ชายใด๋ ยังโถงเล่น หลายเชิงมักพาบ
ผมเล่นเกลี้ยง น้ํามันย่อยชุ่มเลิง
มือบายเหล้า มากินบ่มีเหือดปาก
เฮ็ดหน้าด้าน คําเว้าบ่อาย
มันก็เซ็น ๆขึ้น หลายเฮือนเบื้องดีด
เฮ็ดเพดมีหมื่นชู้ คําเว้าว่าโต
แล้วเล่าเฮ็ดเวียกเหย้า ทางฮ่วมให้สาวเห็น
กลางเว็นเป็นกลางคืน เที่ยวสะเลนอนค้าง
มันก็เค็ง ๆต้าน คําจาบ่เห็นแก่ ไผนั้น
แล้วเล่าทําเพดด้าม สกุลเชื้อเพื่อนฝูง
อันนั้น นักปราชญ์เจ้า หนีหลีกแวนไกล
แม่นสิงามปานใด๋ ให้ค่อยเอาใจเว้น
ชาติที่เป็นหญิงนี้ คึดฮ่ําไว้ เถิงตาถ้วนถี่ อี่หลีแหล้ว
ตกเฮือนไปหากสิฮ้อน ผีด้ําบ่ชมขวัญ เจ้าเอ๊ย
ไผอย่าทําเพียรเลี้ยง งูสาไว้ดอมไก่
มันสิดับบ่มั่ว เข็ญฮ้ายฮ่วมเฮือน บ่อย่าแหล้ว
มันบ่ใช่มุงคุลแก้ว พิฑูรย์ลูกประเสริฐ
อย่าได้อุปโลกน์ถ้อน ยอย่องว่าดี
อันว่า คําสอนนี้ นักปราชญ์อินทิญาณ เจ้าเอ๊ย
เอามาสอน ลูกหญิงปางนั้น
พอให้เป็นขัวข้วม สะพานทองเทียวไต่
ต่างเป็นแว่นให้ หลานหล้าจื่อจํา"
"ลักษณะชายดี"
"บัดนี้ มาจักบอกให้ ฮู้ลักษณะชายดี
คันว่า บุญไผมี ก็จึ่งไปหาพ้อ
มันหากเลิง ๆพ้อ ชายทรามชาติชั่ว
อันว่า ผู้ฉลาดฮู้ หาได้แต่ละคน พ่อแหล้ว
ชายใด๋เนาสถานห้อง เฮือนตนเป็นวาด
เหมือนดั่งเวียกบ่ได้ นอนเล่นแต่เฮือน
ฝูงหมู่วงศาเชื้อ ทางไกลมาฮอด เฮือนนั้น
มันก็ปูสาดไว้ จําให้นั่งเทิง แท้แหล้ว
มันค่อยเว้า ตางพ่อแม่มารดา
มันจึ่งทํากระบวนเป็น พ่อเฮือนจาต้าน
มันบ่ไปหาเล่น พอหวลหาเมื่อ
บ่ห่อนไปซู่มื้อ แผนหน้าห่อไผ
มันบ่มีสงวนกลั้ว หญิงชายฝูงหนุ่ม
ก็ท่อนําผู้เฒ่า เฮียนฮู้ฮีตคลอง
คัดทะนามฮู้ วันยามทุกสิ่ง
ยามเมื่อ วันศีลนั้น มันไต้ธูปเทียน
ตามแต่ความฮู้น้อย มันแผ่สังคะหะ
เอาแต่กําลังเป็น ค่อยเฮียนความฮู้
ยามเมื่อ สังโฆเจ้า แสดงธรรมไขสูตร
มันก็ใจอ่อนน้อม มะธุสร้อยสวาทยํา
ฝูงหมู่หญิงชายขึ้น เฮือนมันบ่มีขาด
หากว่าชายหนุ่มน้อย ความฮู้ก็หากมี
เป็นที่หวังสุขย้อน แนวนามเชื้อชาติ
หญิงหมู่ไทยต่างบ้าน สงวนสู้ชื่นชม แท้แหล้ว
ยามเมื่อ เฒ่าแก่เว้า มันค่อยฟ๎งสงัด
พอเมื่อบรบวรหมด เมื่อลุนจาต้าน
ตามแต่ความฮู้น้อย เป็นคลองฮีตฮ่อม
ฝูงหมู่เฒ่าต้าน ยอย่องซู่คน พ่อแหล้ว
ฟ๎งเยอ นันทาน้อย เสนหาเจ้าพ่อ อวนเอ๊ย
อันบ่เป็นประโยชน์แท้ ใจเจ้าอย่ากระสัน
อันว่า แนวของล้ํา คูนเฮือนหายาก ลูกเอ๊ย
ชายใด๋ เป็นดั่งคําพ่อเว้า มานี้ยอดคน
ชายนั้น นักปราชญ์ต้าน เฮียกว่าบัณฑิต แท้ดาย
ยังเล่าเป็นอาจารย์ แก่คนทั้งค่าย
หญิงใด๋ บุญมีได้ สมภารเพ็งมาก
บุญหากเคยประกอบแท้ มาได้กล่อมเสนห์ อุ่นเอ๊ย
ชาติที่คํานักปราชญ์นี้ สิเผยแปนเว้าม่อ รือนอ
คําคึดยังอยู่พื้น ดินพุ้นบ่ห่อนแปน เจ้าเอ๊ย
หญิงใดได้ ผัวขวัญผู้ประเสริฐ
เป็นแต่กําเนิดเบื้อง บุญสร้างแต่หลัง
หญิงใด๋ได้ ผัวชมคนชั่ว
เป็นตาบาปก่อนพุ้น ประสงค์ตั้งแต่งมา
บุญไผเคยพบพ้อ อย่าขีนขัดหลีก
อย่าได้เห็นแก่ฮูป สิเสียหน้าเมื่อลุน
อันหนึ่ง อย่าได้เห็นแก่เบี้ย เงินคําของฝาก
อย่าได้เห็นใกล้ๆ สินจ้างค่าดอง นั้นเนอ
อย่าได้หวังกินย้อน เงินคําเห็นม่อ นั้นดาย
ชาติที่แมวแลกช้าง ทึนนั้นบ่ห่อนเสีย
ชาติที่แนวเป็นแก้ว มหานิลควรค่า
เห็นบ่ได้ค่าจ้าง อย่าส้มแสบใจ พ่อเนอ
เป็นหญิงนี้ อย่าสงวนเห็นม่อ นั้นเนอ
เห็นเพิ่นได้กันแล้ว อย่าฟ้าวเปิบใจหลาย
หากว่าเอาผัวแล้ว เอาเมียก็ยังต่าง กันแหล้ว
หากว่ามีแม่ช้าง หมายสร้างสืบทึน
อย่าได้เห็นแก่ฮง ๆใส หน่วยขาวใสแจ้ง
ไผสิเอาเป็นเหง้า ผัวขวัญกับประทีบ
ใจอย่าฮ้าย ประสงค์ตั้งเจตนา
เฮ็ดให้สวยรวยตั้ง กลางพาซ้องพระเนตร
แปะใส่เกล้า ประสงค์น้อมซู่คน นั้นเนอ
แล้วจึ่งเอาสะไบผ้า ผืนดีมาห่ม
อย่าได้เฮ็ดลื่นด้าม ตีนซิ่นลากดิน
ตีนขัวนั้นให้ ทางในอย่าให้หย่อน
เฮ็ดลื่นล้น เมือหน้าเพิ่นสิเตียน
อย่าได้เอาโฉมเพี้ยง เทวีลงข่วง นั้นเนอ
เห็นเพิ่นย่องละน้อย อย่าได้โอดสะหาว
ให้กอยใจสร้าง มหาทานดอมเพิ่น
นับเมื่อใสสิ่งแก้ว ทั้งค่ายหากกระสัน
อันว่า ปางบุญนั้น ฝูงสาวน้อยใหญ่
ความคึดอย่าผอกตื้น สงวนเอ้หม่ายกัน
ยามใด๋เจ้า ลีลายัวระยาต ไปนั้น
อย่าได้นําหมู่แส้ สาวน้อยบ่ดี พ่อแหล้ว
ให้ค่อยนําหลังเฒ่า ขุนธรรมผู้ฉลาด นั้นดาย
แปงวาดไว้ กระบวนเบื้องแม่เฮือน พ่อเนอ
ยามเมื่อเถิงสถานตั้ง มหาทานบุญใหญ่
อย่าได้เนานั่งใกล้ สาวน้อยบ่ดี
ให้อยู่ตางมือเฒ่า บายทานของแจก พ่อเนอ
ให้เจ้าเนานั่งใกล้ คนฮู้ฮีตคลอง
ก็จึ่งใจใสตั้ง โมทนาทานทอด
บุญก็จึ่งได้ คําฮู้ก็จึ่งมี พ่อแหล้ว
ยามเมื่อมหาเถรเจ้า ตั้งสูตรมหาชัย

ยามเมื่อมหาเถรเจ้า ตั้งสูตรมหาไซ
ให้ค่อยยอมือนบ ใส่หัวประสงค์น้อม
ใจประสงค์น้อมผายแผ่ฮอด ทุกที่เทวดา
ทั้งตายาย ซู่คนพงษ์เชื้อ
อย่าได้โมโหฮ้อง เห็นที่คํากิน
ซีแซวเสียง กล่าวคําเชิงชู้ นั้นเนอ
แม่นว่าใจประสงค์ด้วย ผัวขวัญผู้ประเสริฐ
ก็ให้เป็นที่น้อม ใจตั้งต่อบุญ
ก็จักชูชักน้าว เสนหามาส่ง
เป็นที่อันประเสริฐแม้ง มะโนซ้อนกล่อมแฝง
อันหนึ่ง ชื่อว่าอุตตะมะสร้าง มหาบุญดวงประเสริฐ
ไผผู้เฮ็ดสิ่งนี้ ขวัญแก้วยอดหญิง นางเอ๊ย
หากจักประเกียรติ์แก้ว นางสาวน้อยหมู่
ซู่คนซู่อยากได้ เป็นใภ้ลูกคํา หั้นแหล้ว
อันหนึ่ง บัณฑิตฮู้ สอนหญิงหลายส่ํา
เห็นเพดฮู้ ยินด้ามอี่ดู หั้นแหล้ว
บัดนี้ เฮียมจักสังขยาให้ เห็นคลองฮีตฮ่อม
อันว่า นางนาถน้อย แพงล้านให้จื่อเอา
แม่นว่า หญิงใด๋เผินเผอะต้าง ปางบุญนั่งเปลี่ยว
เฮ็ดเพดงามยิ่งย้อย ยอย่องว่าโต
มันหากแปงคําให้ ฝูงชายแยงฮูป
คําปากม่วนอิ่นอ้อย หาชู้ช่างออย
มือเล่าบูชาแก้ว โตขยับไปหาบ่าว ชายนั้น
ทํากระบวนเป็น ดั่งนางใจกว้าง
หากว่า โตงามแม้ง ประแยงนั่งเอก
เฮ็ดเพดมีหมื่นชู้ แปงหน้าบ่อาย
บุญบ่มีหวังค้าง ตัวมันพอถ่อง
ตัวมันอาบน้ําบ่สีส่วยล้าง ตมซ้ําแปดคีง หั้นแหล้ว
หญิงนั้น ทําการสร้าง อันใด๋บ่มีฮุ่ง เฮืองนั้น
ไปเอาบุญยังเล่าได้ บาปซ้ําตื่มเลิง นั้นดาย
อันนี้ หญิงถ่อยฮ้าย ถืกบาปสามประการ
กัลยาเอ๊ย อย่าจาเอาแท้
แม่นว่าสมสนิทหน้า นางฮามประเทศต่าง
คําคึดมันผอกตื้น แปนให้เพิ่นเห็น แท้น้อ
อย่าได้ขันอาสาเลี้ยง แนวชะนีฮู้ค่วง นั้นเนอ
มันหากเคียวผอกพ้น ผองเท่ากระดูกดอม หั้นแหล้ว
ชายใด๋ได้ เอาเป็นเมียมิ่ง ตัวนั้น
เข็ญบ่มั้ว ทั้งซ้ําจุ่มจม อวนเอ๊ย
มันบ่เสียแต่เบี้ย ซ้ําสิจุ่มตัวนํา
นันทาเอ๊ย ค่อยคนิงดูแจ้ง
ชาดที่เอาหินถิ้ม กลางกระแสสมุทรใหญ่
ก็หากจมอยู่พื้น นานแท้ก็บ่ฟู
อันนี้ คลองถ่อยฮ้าย สอนสั่งนางคาญ
อย่าได้เอาเทียมตน แห่งเขาฝูงนี้
เพิงที่อุตส่าห์ตั้ง เอาบุญดวงประเสริฐ
ให้สืบสร้าง บุญเบื้องแต่หลัง พ่อเนอ
อันหนึ่ง อย่าได้อามิสด้วย ของทานให้โสภาพ
อย่าได้เห็นแก่โฉมฮูปเจ้า ตนเหลื่อมจึ่งทาน พ่อเนอ
อันหนึ่ง อย่าได้เนานั่งใกล้ เคี้ยวหมากนานลุก แท้เนอ
ชาติที่แนวมหาเถร ดั่งกุญชโรช้าง
เพงมันย้อย ยังหัวหางอยู่
เป็นดั่งช้าง ตัวกล้าอยู่โฮง แท้นา
อย่าได้ซําเซียเว้า นานเหิงงาสิเสียบ แทงแหล้ว
เหมือนดั่งช้างใหญ่น้อย ลงท้ายชุ่มเลิง
มันหากเหลือแฮงรักษาแก้ว ธํามะรงค์บ่ห่อนหม่น
ตมหากมาเกือกกลั้ว คําเจ้าจึ่งหมอง
ชาติที่อํานาจยังกลัวแก้ว จึ่งเกิดเป็นหิน
แม่นว่าพิลาใส ถืกตมก็ดําเศร้า
หากมาเหลือแฮงค้า เต็มสะเภาเฮือใหญ่
ฟองหากมาบ่มั้ว แสนสิเว้นก็หากฮุน
หญิงหากอามิสด้วย บ่ถมคุณด้วยซื่อ
เหมือนดั่งเอาผ้าฮ้าย มาป้องห่อคํา นั้นแหล้ว
หากอยู่ตามใจน้ํา วังหินบ่มีขุ่น เป็นแหล้ว
ควายแม่เลหากผอกฮ้าย ฟูมหญ้าบ่อยากหนี
เป็นที่เหลือมือเจ้า คุมแฮมาตกสีก เสียนี้
เขาฮอหากมาเกิดเกี้ยว ลําอ้อยจึ่งขม แท้ดาย
โอนอ มาช่างไปขึ้นม้า อาชาไนทางกะน่อง
บุญบ่สมสะอาดม้า อานแก้วอย่าเบือน อุ่นเอ๊ย
ฟ๎งเยอ สาวฮามสร้อย สอยวอยชู้เพิ่น ฟ๎งเยอ
ชาดที่สมภารนี้ มีเสมอโสภาพ
ลางคนมาเฮืองย้อน ยายําป๎วพยาธิ์
ลางพ่องมาขึ้นย้อนอาสาค้ํา คูณเมืองยูแต่ง
คําสุขมาบ่ล้วน เสมอแท้เทพดา หั้นแหล้ว
ยามเมื่อเจ้า บายของไปแจก
ใจอย่าเพี้ยนพิ่งแท้ เห็นใกล้แก่โฉม พ่อเนอ
คําสอนไว้ อย่ากรายประทัดเน่ง
ท่านหากติดต่อบ้าน อย่าได้หลีกหนี
ใจหากใสเสียแล้ว ภายลุนอย่าได้จ่ม นําเนอ
ของหากทานขาดแล้ว ประสงค์ตั้งต่อบุญ
ให้ค่อยทอมของไว้ แฮกําลังเมือท่วย นันทาเอ๊ย
อันที่จูงจ่องขึ้น เมือฟ้าก็แต่บุญ หั้นแหล้ว"

"สอนโลก"
"บัดนี้ เฮียมจักกล่าวต้าน สอนโลกปางปฐม
ในคลองเฮือน ซู่วันเทียมไว้
อันว่า หญิงใด๋ฮู้ คะลําคีงสุดยิ่ง
หญิงนั้น เทวดาอยู่ฟ้า มาเฝ้าหมื่นตน
หญิงใด๋ สงวนสู้ ตัณหากามโลภ
ฝูงหมู่เทพไท้ เห็นแล้วถ่มน้ําลาย
แม่นว่า มีของได้ มุงคุลบ่ประเสริฐ
หญิงขี้ฮ้าย นันทาเจ้าอย่าเทียม พ่อเนอ
แม่นว่า นันทาได้ บุตราบ่ประกอบ
มีลูกน้อย คําไห้บ่เหือดหู
ขี้มูกย้อย ยามย่างแหลวไหล
ไผบ่ยินดีฮัก ใส่นมเอาอุ้ม
แม่นว่า เอาผัวได้ อุปปะชนคนถ่อย
มันก็ไปลักช้าง ทั้งม้าเพิ่นมา หั้นแหล้ว
คันเจ้าของมาฮอดแล้ว เป็นความยุ่งใหญ่
เพิ่นก็ตัดโทษให้ ไหมซ้ําผูกตี แท้ดาย
เขาก็เอาเป็นข้อย ทาสาใช้ช่วง
ผัวอยู่ใต้ เมียนั้นอยู่เหนือ แท้ดาย
เขาก็เอาลูกเต้า พ่อแม่บิดา
เฆี่ยนตีขาย จ่ายไปมีมั้ว
คันว่า บริสุทธิ์นั้น เทวดาชูช่อย
ยังจักอ่อยฮ่อยเนื้อ มาซ้อนอุ่นสะนอน อุ่นเอ๊ย
อันว่า เทวดาค้ํา ของเฮือนมูลมั่ง
แม่นว่ามีลูกน้อย ไผอุ้มบ่อยากวาง แท้ดาย
อ่อยฮ่อยเนื้อ บุตราชธิดา พ่อเอ๊ย
หญิงชายเขา จูบชมยอย่อง
เป็นที่ฝูงพี่น้อง ลุงอาป้าย่า
ฝูงเพื่อนบ้าน อาศัยย้อนเพิ่งบุญ เจ้าเอ๊ย
แม่นว่า มีผัวนั้น ใจนางให้กว้างเผื่อ
คึดอย่าตื้น ใจสั้นง่ายดาย พ่อเนอ
ไผผู้มีพื้น คําคีงซวงอยู่ ดีนั้น
เป็นดั่งหมอคล้องช้าง ประกําเจ้าข่มงํา
คันว่า คุมผีได้ พลีกรรมเบิกแม่น
ผีหากมาช่อยน้าว ประกําช้างใส่คลอง หั้นแหล้ว
ปลาบ่ยินดีน้อม ชลธีเขินขาด
ปลาหากชมชื่นเต้า สะพังกว้างดอกบัว
ชาติที่มาลานี้ ดวงหอมฮดฮ่วง
ไผผู้เข้าฮ่มไม้ ดมแล้วบ่อยากหนี
อันว่า ดงหลวงนี้ พึงคณานกแก่น
นกหากชมชื่นด้วย ละไมเล่นง่างาม
เป็นดั่งนทีกว้างวัง หลวงบ่มีขาด น้ําแหล้ว
บุญหากยังแบ่งกว้าง หลายห้วยหลั่งโฮม
ยูงหากแพงตัวแม้ง เฮียวหนามบ่มีเขี่ยน
แฮ้งหากเชยซากฮ้าย คีงเสร้าสาบคาว
อันนี้ อุปะไมแท้ เทียมมาสอนโลก เฮานี้
หญิงใด๋ ประเสริฐด้วย ศีลห้าอยู่ดอม
หญิงผู้ฮักษาบ่ได้ คีงมันเหม็นสาบ
เป็นดั่งผีซากฮ้าย บินเฝ้าเวิ่นบน
ชาดที่ของเหม็นนี้ แมงวันสิหัวต่อ เลิงแหล้ว
แมงวันเขียวสิขี้ใส่ไว้ หนอนน้อยบุ่นกิน
กาหากยินดีด้วย แสวงหาแต่ของเน่า
แฮ้งหากปบปีกเปื๒อง หัวยุ้มใส่โครง
หญิงบ่มีศีลนี้ ตายไปบ่ทันเน่า
หนอนหากมาลักดั้น เป็นขี้ไข่ขาง
ขวัญมันไปเฝ้า อะเวจีหม้อใหญ่
ยังแต่โครงซากฮ้าย กาแฮ้งหากสิฟูม ดอกนา
ฟ๎งเยอ โฉมเฉลาเนื้อ นันทาทิพฮูป พ่อเอ๊ย
คลองหากมีสิ่งนี้ คนเฒ่าสั่งสอน
ยามใด๋เจ้า มีสองซ้อนคู่ กันนั้น
ใจอย่าฮ้าย ฟูมเข้มข่มผัว พ่อเนอ
ชาติที่กะกุลนี้ ชายมันก็ยังแก่ ลูกเอ๊ย
หญิงบ่มีผัวซ้อน ไผสิย้านหย่อนกลัว พ่อเด๊
วังบ่มีหนามนี้ พรานแหบ่มีหย่อน มือแหล้ว
น้ําบ่มีเงือกเฝ้า คนนั้นก็บ่เจียม
เพิงที่เอาผัวไว้ เป็นอาจารย์สอนสั่ง พ่อแหล้ว
เจ้าอย่าได้โอดอ้าง หัวล้านลื่นครู แท้ดาย
หญิงบ่มีผัวซ้อน คนเกกลางกาด
เป็นดั่งกะตาดฮ้าง กลางบ้านเกือกขี้ตม
เป็นหญิงให้ เอาชายเป็นช่าง
เฮือนบ่มีพ่อเหย้า โจรฮ้ายหากสงวน
ชาติที่คนฟันไม้ ลํากะยูงก็ยังเมื่อย
คันว่า ลําบ่มีแก่นนี้ เขาสิปิ้นง่าฮอน
อันหนึ่ง บัณฑิตฮู้ ยอหญิงผู้ประเสริฐ จริงดาย
ใจแผ่กว้าง ภิรมย์ซ้อยชอบธรรม
คันเจ้า มีเงินให้ ปูนเป็นสามส่วน
ส่วนหนึ่งนั้น สงวนไว้สืบเฮือน

ส่วนหนึ่งวางเวนให้ มหาเถรทานทอด
ส่วนหนึ่งช่อยพี่น้อง ฝูงใกล้คู่เฮือน
ยามเมื่อเบื้อง วงศาหลายแห่ง
แบ่งพูดไว้ เมือก้ําแม่ผัว
ถมคุณไว้ ตามคลองอันค่อง
อันว่า ใจแผ่กว้าง คําเว้าค่อยจา
ชาดที่มีหมานี้ หวังคองกินดูก
มีลูกใภ้ อาศัยย้อนเพิ่งแฮง หั้นแหล้ว
ฝูงหมู่เคยแก่มใกล้ฮู้ อาสัยเพิ่งคําสุข
เทียวมาหา ยื่นบายเอาให้
อย่าได้ซอมงอมก้ม ซํางําย้านเพิ่นแก่ม กินเนอ
คันว่า ของออกเฮือนแต่ละน้อย อย่าฟ้าวฮ่ําไฮ
เพิงที่เผยแผ่ให้ โวหารกว้างเผื่อ
ใจอ่อนอ้วน คําเว้าอย่าแข็ง พ่อเนอ
ฟ๎งเยอ เฒ่าแก่พร้อม ฝูงหมู่สาวฮาม
บัดนี้ จะกล่าวตั้ง คลองแห่งวิสัย ก่อนแหล้ว
เอามาสอน สั่งคนทั้งค่าย
ยามใด๋ ผัวหากทําการด้วย คลองเฮือนหนักยิ่ง มานั้น
เมียอย่าเขี้ยว คําฮ้ายตอกหู นั้นเนอ
ชาติที่กําลังนี้ แฮงคนฮู้อิดอ่อน พ่อแหล้ว
ผัวหากไปหากินบ่ได้ อย่าจาต้านเสียดหู นั้นเนอ
อย่าได้อุนอูหน้า เป็นตาชังบ่ปาก แท้ดาย
คันว่า มาฮอดแล้ว ให้ไปต้อนฮับเอา นั้นเนอ
ทั้งเฮือนพร้อม มารดาพ่อแม่
สินั่งล้อม พาข้าวซู่คน
อย่าได้พาเดียวตั้ง กลางเฮือนกินเปลี่ยว นั้นเนอ
เฮ็ดเพดเคียดบ่แล้ว ผัวเจ้าพรากสินอน นั้นแหล้ว
ผีหากเลิงเห็นเบื้อง ทางไปสิมาบ่ง กินแหล้ว
ฝูงหมู่สัตว์สิ่งช้าง ฟูมเข้มห้อยแขวน พ่อแหล้ว
เฮือนใด๋ยังกินข้าว หลายพามับแมบ
เฮือนนั้นเสิกหากมีบ่มั้ว ใจน้ําบ่เกิ่งปลา
เฮือนใด๋ยังกินข้าว พาเดียวโฮมหมู่ กันนั้น
คําฮักยังค่อยตุ้ม กันไว้หมื่นอสงข์ เจ้าเอ๊ย
คันว่า ผัวไปค้า ของขายให้ฮีบแต่ง
เมียให้นบนอบนิ้ว ประจงพร้อมส่งพร
ก็จึ่งสิใช่ได้ ทึนค้าจุ่มเสีย
ฮักผัวนั้น ให้มีใจผายแผ่
ให้ฮักฝูงพี่น้อง แนวเชื้อแม่ผัว
ฮักให้เป็นดั่งกุญชโรช้าง ฮู้ดอมฮักลูก
อย่าได้เป็นดั่งลมเบิกไม้ ยามน้อยหนึ่งหาย นั้นเนอ
อันว่า สงสารห้อง ของแพงฮักฮ่วม กันนั้น
อย่าได้เฟือนฟ่าวฮ้อน ปะโลมอ้อนอิ่นออย
ฮักฮีบฮ้อน เทิงต่างมะโนจิต
ฮักบ่ทันพอยาม สาบสะอางปานแฮ้ง
ชาติที่ยามหนาวนี้ ขางไฟก็หากอุ่น ทวงแหล้ว
เมื่อยามฮ้อนมาฮอดแล้ว กรายใกล้ก็ว่าควัน
ชาติที่หมาหิวข้าว เห็นคามือหากสิสวบ กินแหล้ว
ยามเมื่อกินอิ่มแล้ว แสนสิเอิ้นก็แล่นหนี
เพิงที่ทําเพดไว้ ในใจมิดมี่ หั้นแหล้ว
อย่าได้เห็นแต่ได้ ง่ายแล้วยากกะใจ พ่อแหล้ว
ฟ๎งเยอ นันทาน้อย ธิดาเจ้าพ่อ กูเอ๊ย
คลองหากมีดั่งนี้ บิดาเจ้าสิสั่งสอน
อันว่า ของหอมนี้ คนทั้งหลายประสงค์หลีก ไกลนอ
อันที่ เหม็นเน่านั้น ประสงค์สู้อยู่ดอม หั้นแหล้ว
อันที่ ตายเสียเสี้ยง คนทั้งหลายประสงค์ใส่ จริงนอ
อันที่ ยืนยิ่งล้ํา ประสงค์เล่นบ่จา แท้แหล้ว
นัตถิเสี้ยง โพธิญาณสอนลูก
แล้วท่อนี้ ถวยไว้ที่ควร ก่อนแหล้ว"


อินทิญานสอนลูก สำนวน๒

"บทเตือนสติ"
"บัดนี้ เฮียมจักคณนาตั้ง แปงสารให้เห็นฮ่าง กระบวนเนอ
พอแต่บักง่ามไว้ แปงท่างใส่ฮาง
โอนอ สาวเอ๊ย ขนไป่ทันปกท้าย ก็อย่าแหนหางแล่น ไปนั้น
อันหนึ่ง ปีกไป่ทันหุ้มก้น อย่ามาถ้าเต่าสกล นั้นเนอ
เขาไป่โซงเพียงด้าม อย่าหลิกหัวแกว่ง ไปนั้น
หางไป่ปกกีบน้อย อย่าฟ่าวว่าโต นั้นเนอ
คันว่า พ่อหากมรณาแล้ว ชีวังเถิงมัจจุราช
ศรีแก่นแก้ว เอาแข้วขอดแหวน พ่อเนอ
คันว่า คําปากพ่อแม่นี้ หนักเกิ่งธรณี ลูกเอ๊ย
ผู้ยําแยงนบ หากสิเฮืองเมือหน้า
อันหนึ่ง เฮือไหลแล้ว ขอนยังดอมท่า
ไฟหากไหม้ป่าไม้ ดอนเนื้อก็หากยัง เจ้าเอ๊ย
ชาติที่คําตายนี้ บ่มีวายวันหนึ่ง เป็นแหล้ว
ใบหากขูหล่นแล้ว ลําก้านก็หากยัง แท้ดาย
อันหนึ่ง สัพพัญํูเจ้า นีระพานลดชั่ว ไปนั้น
ยังแต่น้องแก่นแก้ว เดียวนี้สืบมา
คนบ่ย่อง ปาเกียรติ์ทั้งโลก เฮานี้
พระบาทตั้ง คลองไว้สืบมา"
"บทให้เคารพผู้มีพระคุณ"
บัดนี้ พ่อหากมรณาแล้ว ชีวังเถิงมัจจุราช ไปนั้น
คุณพ่อเลี้ยงแต่น้อย ยอขึ้นใส่หัว
ฟังเยอ เจ้าผู้โสมสะอาดเนื้อ นันทนาถธิดา พ่อเอ๊ย
อย่าได้โกธาขม เฝื่อนฮึนเสมอง้วน
มาจักบอกให้ฮู้ ยามเมื่อตาเห็น
ทําคลองคน อย่าทําใจสั้น
อย่าได้ทําใจเพี้ยง เขาฮอขมขื่น
คําคึดอย่าให้ตื้น เสมอหม้อปากบาน
คึดให้ถ่องเถิงพื้น เสมอบัวยมหยั่ง
ใจให้ฮอนสิ่งฝ้าย หลายล้อยืดยาว
ใจให้ขาวเสมอน้ำ คุงคาวังใหญ่
อย่าให้เป็นสิ่งหม้อ หมองเม้าทั่วคีง
ยามเมื่อเจระจาต้าน หอมหูหวานม่วน
ยามเมื่อไขปากต้าน อย่าพ้นเพิ่นหลาย
อย่าได้ธรรมเนียมเพี้ยง หัวเพียงเชียงอึ่ง
มันหากเส็งแต่ฮ้อง คําเว้าฆ่าโต
ให้ค่อยพิจารณ์แจ้ง เทียมนํานักปราชญ์
หากอยู่หากช่างเว้า อระอ้อยอุ่นเฮือน
เป็นที่ให้เพิ่นย่อง เทียมนํานักปราชญ์
ผู้สลาดฮู้ สงวนสู้ชื่นชม"
"ให้ระวังความคิด"
"อันหนึ่ง อย่าได้กวก ๆ ฮ้อง เสมอกากินไข่
อย่าได้เป็นดั่งนกใส่ฮ้อง ลางเข้มข่มแข็ง นั้นเนอ
เพิ่นบ่ยินดีด้วย ดอมลางเสียงปาก
คลองถ่อยฮ้าย ฝูงนี้อย่าเพียร พ่อเนอ
อันหนึ่ง อย่าได้เถียงผู้ใบ้ กลัวท่านหัวขวน
มันจักไปเบิกบาน เมื่อลุนอายหน้า
คําระหัสนี้ อย่าไขเว้าม่อ
เพิ่นจักไปกล่าวเว้า กลางบ้านเบิกบาน แท้ดาย
อย่าได้เถียงผู้ใบ้ เสมอห่านหัวเขียว
มันก็ไลลาฝูง ไข่เสียกลางบ้าน
มันอาลัยถิ้ม เสียใจดอมเพิ่น
ลูกแตกออกจากท้อง มันเลี้ยงบ่เป็น
ทําคุณให้ ลักคณานําไก่ ดีดาย
หากฟักหากช่างป้อง ทอมเลี้ยงใหญ่สูง
อันว่าทําคนสร้าง อย่าเสียใจดอมเพิ่น
มีสีกเสี้ยว ถนอมไว้จึ่งดี"
"บทค่างเจ้าเล่ห์"
"ชาติที่หางงอเฒ่า หมาพรานเคยคั่ว เลิงแหล้ว
คันว่าถืกกลิ่นเนื้อ คลองนั้นบ่วาง
เฮาหากเห็นหลายเบื้อง นิทานปางก่อน
ยังมีแม่วอกฮู้ แฮมเฮื้ออยู่ดง
มันก็มีลูกน้อย ยังอ่อนในฮัง
มันก็ขนขวายหา ซู่วันมาเลี้ยง
ยังมีเชื้อ หางยาวอ้ายค่าง
มันก็เป็นป่วงฮ้าย เขาซ้ําสั่งหนี
มันก็เดินมาพ้อ สองขาแม่ลูก
มันก็เห็นอ่อนน้อย ยินค้ามอยากกิน
มันก็ขออยู่เลี้ยง ประชิดฮ่วมเฮียงฮัก
พันธะไมมิต หมื่นปีอย่ามายม้าง
แต่นั้น ผีปอบฮ้าย อ้ายค่างยินดี
มันก็ขนขวายหา ซู่วันมาเลี้ยง
ดูนานได้ หลายวันคึดอยาก มานั้น
มันก็ติโยกเย้า ลิงนั้นคิดอยากไป
บัดนี้ ยังมีหมากไม้ ก้อนก้ำฝ่ายภูสูง ที่พุ้น
เฮียมก็ขนขวายหา ซู่วันเริงเรื่อย
นางจงไปเอาถ้อน อย่ารอนานมื้ออื่น
ลูกอ่อนน้อย ฮานี้อยากกิน แท้แหล้ว
โอนอ กรําสุดแท้ สายใจเจ้าแม่ ฮานี้
ยามเมื่อไห้ฮ่ําฮ้อง เป็นน่าอี่ดู แท้แหล้ว
แต่นั้น นางลิงใบ้ ผันไปเฮวฮีบ
หาหมากไม้ ดงกว้างก่ายไกล
แต่นั้น หางยาวอ้าย ลิงกังผีปอบ
มันก็จับอ่อนน้อย กินแล้วเล่าหนี
แต่นั้น นางลิงใบ้ ผันเรวมาฮอด
เลยบ่เห็นอ่อนน้อย ทวงม้างแตกตาย"

"บทงานประจำแม่บ้าน"
"อันนี้ คําขุนเฒ่า อาจารย์ปางก่อน
ชักให้นันทะนาถเนื้อ ฟังถ้อนฮำเพิง
ทําคนให้ ลักขณานําเต่า
เมี้ยนไข่ไว้ ดีแล้วจั่งค่อยหนี
หากบ่ล้ำที่แท้ ในแห่งคําคิด
ชาติที่เป็นแนวหญิง อย่าวางหลาฝ้าย
ยามใด๋เจ้า ลีลาเข้าบ่อน
คิดให้แจ้ง ดีแล้วจั่งนอน
ยามนอนให้ หายามชอบเมื่อ
ให้ฟังเสียงผู้เฒ่า ขันชั้นเทื่อสาม
ยามลุกให้ แปงผมผางฮีด
จั่งค่อยเปื้องบาทย้าย ตีนเจ้าให้เบา
อย่าได้เค็ง ๆ พื้น เฟือนหัวพ่อแม่
คลองหมู่นั้น เวรแท้บาปมี
แล้วจึงลุกนึ่งข้าว ประสงค์แต่งจังหัน
ยามเมื่อบายของทาน ให้สีสรงล้าง
ยามเมื่อทําครัวนั้น มวยผมอย่าให้คิ่ว
ยามเมื่อส่ายข้าวนั้น ตีนซิ่นอย่าบาย พ่อเนอ
ให้ค่อยทําตนตุ้ม เสมออย่างชมเหนือ
อย่าได้เฮ็ดตุ๊เตื้อ ตีนซิ่นกว่ายพา
อันว่าบาปซอกไซ้ ไผบ่หวนเห็น
ชาติที่เงาเทียมโต บ่ห่อนบายเอาได้
น้ํากินได้ แวนดีอัดหี่
ให้ส่วยล้าง มือนั้นให้ดี
ให้เป็นลักขณา ท้ํานองนักปราชญ์ เฮียมเอ๊ย
ใจสลาดแล้ว มือเจ้าฮีบบาย น้องเอ๊ย
อันหนึ่ง ยามเมื่อเนาอยู่ห้อง ในที่เคหัง
ให้เจ้าแปงกระบวนโสม ดั่งเฮือชายค้า
อย่าแปงกระบวนให้ โสมคือเฮือช่วง
ฝูงอยู่ใกล้ เห็นพื้นเพิ่นสิชัง
ให้เจ้าค่อยแปงบ้อน เสมอดั่งปลาบึก
อย่าได้แปงคุยลอย เหมือนดั่งปลาซิวอ้าว
ให้ค่อยทําเพียรสร้าง เสมอแตนแปงช่อ
ให้เจ้าก่อสืบไว้ เสมอมิ้มสืบฮาง
ยามใด๋ได้ มามืออันใหม่
ของเก่านั้น แพงไว้อย่าวาง
อันหนึ่ง วัตถังผ้า อาภรณ์ผืนใหม่
เห็นว่าได้ อย่าเอ้ฮ่างฮาย
เพิงที่ถามหมอให้ หายามชอบเมื่อ
อย่าฟ้าวเอ้ใส่ซิ่น หัวป้องช่างชาย
เฮ็ดให้พอเสมอเพี้ยง สกุณานกเจ่า
บาดว่าบินแอ่นผ้าย ขาวแจ้งจั่งเห็น
ยามใด๋ได้ เต็มถงอย่าฟ้าวอ่ง
ยามขมอดไฮ้ อย่าแค้นคั่งทวง
ทําคนให้ ลักขณานําปลวก
หากอยู่หากช่างอ้น คูนขึ้นใหญ่สูง
ให้น้อมมมัสการตั้ง หาคนผู้ช่าง
อย่าได้ฟาย ๆ หาง ดั่งยูงทวยฟ้อน
ให้ค่อยเอาโสมพี้ยง ธุงชัยซ้องพระเนตร
ยามเมื่อลมไปมาล่วงต้อง อย่าเปื๒องปิ๑นหาง
เถิงเมื่อยามแลงตั้ง คลองแลงหาฮีต
อย่าได้ลูบแต่เกล้า มวยซ้ายชุ่มเลิง
ยามเมื่อทรงกระจอนต้าง พอหูเหียนค่อง
เป็นดั่งช้าง พลายน้อยซู่ตัว
ฝูงดอกไม้ อย่าได้ทวยหัด
อย่าได้เซิมเซอะโสม เถี้ยมนํานางท้าว
เยียวบ่ดีกะตาเฒ่า คลองมีบ่นําฮีต
ชาติที่ยาวลื่นด้าม เป็นแล้วก็บ่คือ
อย่าได้กวัดแกว่งเปื๒อง แขนข้อเป็นกะดัด
ให้เป็นดั่งสายยอยสาง ชั่งคําชาเป้ง
ยามเมื่อลีลาย้าย แปงโสมสานย่าง
อย่าได้เป็นดั่งเชื้อ ชะนีเต้นข่วงไป นั้นเนอ
อันหนึ่ง แปงสะนอนให้ เสมอฮังนกจอก
อย่าได้เป็นดั่งฮังฮ้ายปากกว้าง ตัวฮ้ายนกกะบา พ่อเนอ
ชาติที่โครงควายหล้าง ไผเห็นคนถ่ม น้ําลายแหล้ว
ยังแต่แฮ้ง ตัวฮ้ายหากสิฟูม
เพิงที่แปงสนานพี้ยง สระพังเพียงสมุทรใหญ่
มีบ่ไฮ้ หลายห้วยฮ่อมโฮม
เพิงที่ทําใจกว้าง โวหารไขปาก
ของฝากล้นลื่นไฮ้ พอได้กีดสะนอน
พอเมื่อตาวันคล้อย อย่านอนหัวค่ํา
ฮีตหากตั้ง มาแท้แต่ปฐม
ชาติที่แนวนามบ้ง แปนโตกาสิตอด กินแหล้ว
เฮ็ดให้เป็นสิ่งม้อน ใยหุ้มห่อโต
อันหนึ่ง กลางคืนนั้น เข็นไนให้มีคู่
อย่าโอดอ้าง ทอนท้อผู้เดียว
อันว่าโจรมารนี้ ใจหาญเห็นอยาก กินดาย
ชาติที่นอนป่าฮ้าย แปงห้างให้สูง
ไฟตามไต้ เฮืองแสงเห็นฮุ่ง
อย่าได้มุดมอดไว้ กะบองนั้นอยู่ดํา
เยียวบ่ดีกะตาเฒ่า คลองมีบ่นําฮีต
ชาติที่เฮียวต่ําไม้ งวงช้างหากสิบาย
ยามเมื่อเคี้ยวหมากนั้น ตาเชื่อนไชยู
เป็นดั่งใบพะเนียงไถ บ่ห่อนเบือนเมือซ้าย
ยามเมื่อยอแขนเปื้อง ทวยถงกวัดแกว่ง
ตาแจ่มเจ้า เซาไว้อย่าม่ายเมียง
ยามใด๋ได้ ยินแคนขับขลุ่ย มานั้น
ฝูงหมู่บ่าวส่ําน้อย เทียวเล่นค่ําคืน
ขันแข่งฟ้อน ทั้งอ่านหนังสือ
อย่าได้เค็ง ๆเสียง ตอบชายทรงใกล้
เพิงทําสนิทไว้ แปงเชิงให้มันค่อง
ชาดที่นกจาบฮ้าย เห็นข้าวหากสิดอม
ตามวาดไว้ สะงานนางใส่หมาน
ชาติที่ไซคนลวง หากสิมีมาต้อง
อาหารเต็มพาข้าว มีอันใด๋ให้เจ้าเบิ่ง
อย่าได้กินแต่ซิ้น ปลานั้นอย่าไล
อย่าได้เวลาล้ำ กรายคลองเดิ้กดื่น
ฮีตหากตั้ง มาแท้แต่ใด๋"

"บทธรรมเนียมหนุ่มสาว"
"อันที่ตามคลองแท้ ภาษาสาวบ่าว
อย่าได้ขึมเพดแท้ กระบวนหน้าบ่งาม
อย่าได้จุนจูแท้ เพลินหัวหางต่ำ
อย่าผอกหุนหู่พ้น ปลายไม้บ่เบิ่งตีน
เป็นคนให้ธรรมเนียมเพี้ยง เสมองูเข้าซุ่ง
หัวหากซ้น งอขึ้นแต่หาง
เป็นคนให้ แปงเชิงมีวาด
ซิ่นบ่ทันเก่าเกลี้ยง อย่าได้ขาดกลาง
เงินเสียแล้ว ขวัญยังดอมเสื่อ
ผ้าขาดแล้ว เชิงนั้นหากยัง
อันหนึ่ง อย่าได้พาโลล้น หลายคนมักพาบ
อันบ่เป็นแว่นแก้ว อย่าได้ล่ำแยง
อย่าได้ไลเสียแก้ว มุงคุลของเก่า
ควรที่เอาฝ้ายคล้อง คอไว้ล่ําแยง
อันว่าภาษาเชื้อ แนวเสืออย่าได้แอบ น้องเอ๊ย
ให้แอบแนวลูกช้าง มาสร้างสืบเฮือน
อันว่าสาขาไม้ ลําเดียวปล้องยังต่าง
หากว่าเป็นพี่น้อง ใกล้ใจเลี้ยวหากสิมี น้องเอ๊ย
สัจจะเว้า วาจาจางจืด เสียเนอ
แก้มหากจุปากเจ้า ใจน้อยอย่าลง
เห็นว่าเคยเลิงแล้ว อย่าเยียวใจม่อ
ชาติที่เทียวทางเฮือ อย่าเบือนหาแก้ง
อันหนึ่ง วัตถังผ้า แพรขาวผืนขนาด
นักปราชญ์เจ้า แพงไว้ห่อคํา
อันหนึ่ง ขอนผีฮ้าย ในโลงเหม็นเน่า
นักปราชญ์เจ้า เอาแล้วห่อผืน
อย่าได้ทําการชู้ หลายชายมักพาบ
เป็นดั่งไซใส่น้ํา หลังหล้าบ่หมาน
อันหนึ่ง เป็นดั่งหางยาวเข้า ในสวนคาอยู่
ยามเมื่อบืนออกได้ เขาข้องพุ่มคอง
หญิงใด๋โมโหด้วย ตัณหาฮ้อนเฮ่ง
เป็นดั่งสระใหญ่กว้าง สะเภาค้าหากสิโฮม
ไขฝาไว้ วันศีลคุมบาตร
ตามแต่ไผอยากขึ้น เมือฟ้าหากสิทาน
เห็นว่าดีกะตาแล้ว อย่าเสียใจม่อ
ชาติที่แนวต่อตุ้ม กรายใกล้ให้เจียม"

"บทนิทานแลนโมน"
"อย่าได้เป็นดั่งพาโลฮ้าย หญิงโถงมักพาบ ปางนั้น
เป็นลูกผู้ กะฎุมพีดฮูปงาม
ยังมีปุโรหิตตั้ง ใจจงคิดต่อ
ก็บ่คิดโลภเลี้ยว พอล้ำล่องสอง
แต่นั้น ยังมีปุริโสเชื้อ ชายชิงใบ้บาป
คิดอยากได้ นางแก้วกล่อมนอน
มันก็คึดใคร่ได้ ชิงยาดปุโรหิต
มันจึงเอาแลนโมน ป่ามาดูเลี้ยง
มันก็ทําเพียรเลี้ยง แลนโมนเลยใหญ่
มันจึงแปงหน้าไม้ ปืนพร้อมพร่ำแหลม
ค้อมฮุ่งแล้ว มันแต่งเดาดา
เอาแลนโมน ใส่ถงดีแล้ว
มันจึงบายเอาหน้า ทั้งถงเฮวฮีบ
คอนผ่าบ้าน ไปให้เพิ่นเห็น
มันก็ลีลาเข้า อรัญญาในป่า
ทําเพดเพี้ยง พรานหน้าคั่วดง
พอเมื่อตาวันคล้อย ยามแลงมันต่าว มาแหล้ว
มันจึงเคี้ยวหมากแต้ม แลนนั้นทั่วคีง
หางผูกเกี้ยว แลนเล่าคอนมา
แปงกระบวนเป็น ดั่งมันยิงได้
มันจึงลีลาเข้า ป๎กตูเวียงกะฎุมพีด
คอนโต่งโต้น แลนนั้นฮีบกราย
เมือเถิงห้อง เฮือนตนสันเก่า
นอนเปล่าแล้ง ดายดู้แสบพุง
ค้อมฮุ่งแล้ว แลนไฮ่ในถุง
เถิงยามแลง ผูกคอนมาแท้
มันก็เอาหางแต้ม หัวแลนแดงเฮื่อ
คอนโต่งโต้น กรายแท้ดั่งหลัง
เขาก็แซว ๆท้วง นายพรานบาบ่าว
ตั้งมาช่างหาได้ แลนแท้ซู่วัน
มันกล่าวต้าน จาต่อฝูงสาว
ตั้งหากฮุนแฮงผี ก็จึงเอามันได้
ตั้งผอกพ้น มาอยู่ลําสูง
ข้อยจึงพางานยิง หัวคิงแดงเข้ม
แซว ๆพร้อม คนเฮือนกะฎุมพีด
เขากล่าวย่อง ยอแท้ช่างหา แท้นอ
มันก็หัวยียุ้ม เมือเฮือนสันเก่า
ทุกค่ําเช้า ทําแท้ดั่งหลัง
มีทั้งหม้อชั่งซิ้ นควายตายสางห่า
มันจึงแปงหลอดส้อย ยายไว้ว่าแลน
พอเมื่อวันค่ําคล้อย มันอ่าวเถิงนาง
มันจึงไปจาถาม กล่าวเป็นเชิงชู้
แต่นั้น นางสาวเชื้อ หญิงเกกะฎุมพีด
มันจึงเว้า ความแม้งว่าสิเอา
มันก็ไลลืมแก้ว มุงคุลของเก่า
เห็นแก่เบี้ย มาใกล้ม่อมือ
ทั้งกะฎุมพีดเฒ่า มารดาพ่อแม่
คึดอยากได้ พรานหน้าคั่วดง
แต่นั้น ปุโรหิตผู้ อาจารย์ชู้เก่า
ก็จึงใช้ห่อหมาก ไปต้านกล่าวโอม
กะฎุมพีดฮ้าย แล้วเล่าเลยขีน
บ่ใช่บุญโบฮาน อย่าสุมาขอถ้อน
บัณฑิตนี้ นอนเว็นมื้อฮ้อยเทื่อ
เวียกบ่ได้ คําเว้าแต่ผญา
ก็บ่เคยช่างฮู้ เคยฮ่วมบัณฑิต
ชาดที่แนวอาจารย์ ปากเป็นผญาเกลี้ยง
บ่อยากคัวเสียแล้ว อาจารย์เพดอ่ง
เวียกบ่ได้ เพาผ้าผอกเหม็น
เมื่อนั้น นายพรานเลี้ยง แลนโมนชมชื่น
มันก็ไปซู่มื้อ เอาชิ้นยื่นมือแลง
เฮียมหากคิดหาเจ้า กินแลนบ่ลงง่าย
ข้อยหากประสงค์แต่ชิ้น มาต้อนต่อนดี
แต่นั้น เลียนตามลึ้ง หลายวันไปกล่าว โอมแหล้ว
กะฎุมพีดเฒ่า หัวยุ้มว่าบุญ
บุญเคยได้ ผัวพรานคนส่า
กูบ่ขีนแห่งเบื้อง บูราณเจ้าสิปลูกแปลง
น้อยบ่ช้า กับก่ายอาวาโห
อาวาหะเขา แต่งดองเลยแล้ว
แต่นั้น เขาก็คองกินชิ้น ดอมเขยไปป่า
ทุกค่ำเช้า มาแท้เปล่าดาย
เวียกบ่ได้เข้า แต่เหล่าพายปืน
คันว่านอนกลางคืน แต่จาเชิงหน้า
วันวานนี้ เฮียมยิงใกล้สะแหม่ง
ถืกง่าไม้ ปืนแท้งบ่เถิง
พอเมื่อวันฮุ่งเช้า มันเล่าเลยไป
ยามแลงแปน แต่มือมาเว้า
ชาดที่เหนนอนมุ้ง เฮียมยิงใกล้สะแหม่ง
ผิว่าปืนใส่หน้อง เหนอ้มส่วนตาย
เขาก็คองกินชิ้น ดอมเขยท้องโข่ง
เกล็ดบ่ค้าง มือแท้เปล่าดาย
หากบ่เหิงนานแท้ ผัวเมียเลยห่าง กันแหล้ว
ชายจึงมาใส่ฮ้าง หญิงไว้เวทนา
อันนี้ นิทานเบื้อง นายพรานใกล้สะแหม่ง
คนจึงได้เยื่องเค้า ครูนั้นสืบมา"

"บทลักษณะชายดี"
"อันนี้ สุใสท้าว นักปราชญ์อินทิญาณ
นํามาสอน ลูกคีงปางนั้น
ฟังเยอ มนุษย์เนื่อง นันทะนาถธิดา พ่อเอ๊ย
อย่าได้ทําใจโถง พาบชายเชิงชู้
อย่าได้หวงแหนชู้ ไปเลียชิงยาด ผู้ใด๋เนอ
ตามอาชญ์ไว้ อย่าเต้นใส่ชาย
สิบคนให้ คนิงนำผู้หนึ่ง
บ่กว่าถ้อน ใจเจ้าฮ่ําเพิง
ชาติที่แนวนําน้ำ บ่มีเพียงเป็นถ่วง กันแหล้ว
แสนหน่วยแก้ว คูณแท้ลูกเดียว
ทั้งมวลแท้ ยังคูณสามลูก
เป็นที่จั้ง ทั้งค่ายโลกลือ
อันหนึ่ง หนูกวนข้าว ใจคนคล้อยคั่ง
ชาติที่ผัวขี้เหล้า เงินเบี้ยบ่หลอ
เพิงที่เอาผัวให้ หาแนวนักปราชญ์
ใจสลาดแท้ คลองฮู้สั่งสอน
ฮีตบ่มีเบี่ยงล้ำ ใจแห่งบัณฑิต
แม่นว่าทําคลองคน บ่หลอนพอฮ้าย
อย่าได้หวงแหนเชื้อ ทัวระพีบ้องล่าม นั้นเนอ
มันหากเปื้อง ไกวหลิ้นแต่เขา
หวังจักคลองกินย้อน หางยาวยินยาก
หากบ่ล้ําที่ถ้อน หางสั้นคั่วหมาน
บัณฑิตนี้ เห็นกายินหน่าย
ตัวหากเป็นผู้ฮู้ เอาห้อมใส่คีง
มันหากหวนเห็นใกล้ โครงควายตายห่า
ยูงจึงจับปีกเปื้อง ทาให้ก่ำดํา
ชาติที่โรคาฮ้าย ในคีงป๎วยาก พ่อแหล้ว
ไผขะลําบ่ได้ คีงเศร้าดั่งกา
ฟังเยอ ธิดาสร้อย นันทานงถ่าว
พ่อสิชักให้ฮู้ กระบวนล้ําโลกหญิง
ชาติที่ตัณหานี้ ใจหญิงฟ้าวฟ้อง
ได้แห่งหย้าม เห็นใบ้แห่งราน
อย่าได้สงวน ผู้ชายโถงหลายแห่ง สิใด๋เนอ
ตามแต่บุญแบ่งเบื้อง บูราณสร้างแต่หลัง
อักโขล้น หญิงชายในโลก เฮานี้
ไผบ่มีคู่ซ้อน นอนแล้วอยู่บ่เป็น เจ้าเอ๊ย
เป็ดบ่มีหนีน้ำ สระใหญ่อโนมา เป็นแหล้ว
มีท่อเทียมแทบเข้า ฟูมเท่าชั่วชีวัง นั้นแหล้ว
จันทร์บ่มีพรากข้าง แฝงฮ่วมเลียมเสมร
ของสนิมเบื้อง เทียบแนนรือหลีก ได้นั้น
ราหูหากมีบ่ห่อนฮ้าง ฮามแก้วหน่วยพระจันทร์
ชาติที่ดวงหอมนี้ บานดายแล้งเปล่า เป็นรือ
คําคิดแมงพู่ยังท่อฟ้า สิหมายเมี้ยนกระดูกดอม
บ่ได้เป็นที่ฮมอกเอ้า คําสิเอาเป็นคู่
ฝากหากจับง่าเค้า ยามนั้นก็จั่งโดย
ยามนั้นฟืนอย่าขืนใจน้ํา ไหลล่องตามกระแส
พ่อแม่ชมชื่นแล้ว ใจน้อยอย่าขืน
มันก็เห็นกะตาเฒ่า เคยเลิงหลายเทื่อ มาแหล้ว
ไผบ่เฮียนฮ่อมเบื้อง คลองเฒ่าถ่อยคน
งูอย่าขีนใจแข้ หางยาวเสมอภาค กันแหล้ว
ดาบหย่าหวังหน่ายด้าม คมสิเหี้ยนก่อนสั้น
อย่าว่าตัวกระดัดฮู้ อุนอูบ่หาฮ่อม ไผเนอ
เห็นแก่ได้กล่อมกลิ้ง ใจเจ้าเปิบนํา
เยียวบ่กงเมือหน้า เสนหาฮีตห่าง กันนั้น
ฮักแต่คราวเมื่อฮ้อน ยามน้อยหนึ่งหาย
เอาแต่กัตตาเบื้อง นํามาแต่ปางก่อน
ตามแต่เร่งน้อม นําให้จึ่งเอา
เป็นหญิงนี้ เอาผัวหาง่าย ก็ใจรือ
เอาบ่เป็นประโยชน์นี้ เข็ญฮ้ายฮ่วมสะนอน
เห็นว่ามีผัวแล้ว บ่มีกลัวเกรงว่า ดีนอ
ลี้นหากเจ็บคอบแข้ว น้ําตาย้อยหยาดเลิง
หญิงใด๋ได้ ผัวชมใจถี่
เกรงท่อทุกข์เท่าเฒ่า คําไฮ้บ่เหือดคีง
นกบ่ยินดีหลิ้น สาขาบ่มีฮ่ม
สระบ่มีดอกไม้ คณาเนื้อบ่สงวน
หญิงใด๋ได้ ผัวแนวนักปราชญ์
เป็นที่ให้กล่าวย่อง ทั้งค่ายทั่วแดน
คําสุขล้วน ยูสะบายบานยิ่ง
ฝูงพี่น้อง หลายเบื้องแฮ่งสงวน
เป็นดั่งยุคันธีตั้ง เฮืองเสมรเขาใหญ่
ฝูงหมู่มฤคนาศเนื้อ เดินเข้าขาบประนม
อันนี้ พอแต่อุปมาให้ นันทาคิดฮ่ํา คนิงเนอ
พ่อสิสอนสั่งให้ กระบวนล่ําเฮียนหญิง
อันไป่ควรเถิงด้าม อย่าห่าวหวนเอา
เยียวพอเถิงภายลุน เคิกมีเมือหน้า
ผากฎแล้ว ใจบุญนักปราชญ์
เลือกหมู่ไม้ ดงกว้างหมื่นลํา
ฮุนแฮงได้ ลําศรีมหาโพธิ์
ยังเล่าวิเศษแท้ เงาเงื้อมขอบเมือง
เป็นที่จั้ง ในโลกทั้งสาม
โลกามี แต่ลําเดียวเจ้า
อักโขล้น หญิงชายแสนส่ำ
ฮ้อยประเทศบ้าน มีแท้ผู้เดียว
เป็นที่ถืกโสลกแท้ พิมพ์แพงลักขณะ
นันทาเอ๊ย ล่ำแยงเนอเจ้า
หญิงใด๋ได้ชายโถงหลิ้น หลายเชิงมักพาบ บ่ดี
ผมหมีดเกลี้ยง มันไล้ชุ่มเลิง
มือบายเหล้า มากินบ่เหือดปาก
เฮ็ดหน้าด้าน คําเว้าบ่อาย
เซิมเซอะขึ้น หลายเฮือนเปื้องหมีด
เฮ็ดเพดมีหมื่นชู้ กวนเว้าว่าโต
เฮ็ดเวียกแม้ง ทางฮ่วมสาวเห็น
กลางเว็นเป็นกลางคืน เที่ยวเฮนอนแท้
เค็ง ๆ ต้าน คําจาเห็นแก่ ไผนั้น
ทําเพดเพี้ยง กะกูลเชื้อลูกเสือ
ฝูงนี้นักปราชญ์เจ้า หนีหลีกแวนไกล
แม่นว่าเซิมเซอะโสม ให้เอาใจเว้น
ชาติที่เป็นเฮือนี้ เถิงตาถ้วนสี่
ตักเฮือนใด๋หากฮ้อน ผีด้ำบ่ดี
ไผอย่าอาสาเลี้ยง งูสาไว้ดอมไก่ บ่ดีดาย
ดับบ่ฮู้ เข็ญฮ้ายฮ่วมเฮือน
บ่ใช่มุงคุลแก้ว พิลาลูกประเสริฐ
อย่าได้อุปโลกน์ถ้อน ยอย่องว่าดี
คําฮ่อมนี้ นักปราชญ์อินทิญาณ
นํามาสอนเสนหา ลูกหญิงปางนั้น
ชายใด๋เนาสถานห้อง เฮือนตนเป็นวาด
เหมือนดังเวียกบ่ได้ ปำไป้สืบไป
ฝูงหมู่วงศาเชื้อ ทางไกลมาจอด เฮือนนั้น
มันก็ปูสาดไว้ เชิญให้นั่งเทิง
แล้วค่อยเว้า ตางแม่มารดา
มันจึงทํากระบวนเป็น พ่อเฮือนใจกว้าง
มันบ่มีถงเหล้น พอหวนหาเมื่อ
บ่หอนไปซู่มื้อ แสนหน้าฮ่อไผ
มันบ่มีสงวนกั้ว หญิงชายฝูงหนุ่ม
ก็ท่อนําผู้เฒ่า เฮียนฮู้ฮีตคลอง
คัดทะนาฮู้ วันยามทุกสิ่ง
ยามเมื่อสี่โห่นั้น มันไต้ธูปเทียน
ตามแต่คําฮู้น้อย ใจแผ่สังคหะ
เอาแต่กรรมพาเป็น ค่อยเฮียนคําฮู้
ยามเมื่อสังโฆเจ้า ตั้งสูตรมหาชัย
มันก็ใจอ่อนน้อม มะธูช้อยชอดยํา
ฝูงหมู่โลกิยาขึ้น เฮือนมันบ่มีเหือด
ตั้งว่าชายหนุ่มน้อย คําฮู้หากมี
เป็นที่หวังสุขย้อน แนวนามเชื้อชาติ
ฝูงหมู่ไทยต่างบ้าน สงวนสู้จ่มหา
ยามเมื่อเฒ่าแก่เว้า มันค่อยฟ๎งสงัด
พอเมื่อบระบวรหมด เมื่อลุนจาต้าน
ตามแต่คําฮู้น้อย เห็นคลองฝูงหมู่
เฒ่าแก่ต้าน ยอย่องซู่คน
ฟ๎งเยอ นันทาเนื้อ เสนหาแยงฮูป เอาเนอ
อันบ่เป็นประโยชน์ฮ้าย ใจเจ้าอย่ากระสัน
อันว่าแมวคํานั้น ในเฮือนหายาก
ชาติที่นักปราชญ์ฮู้ หาได้ละคน
อันว่าสาขาไม้ ลางใบยังต่าง
ใบหนึ่งยังประเสริฐแท้ ธรรมเจ้าอยู่ดอม
หญิงใด๋ได้ ผัวขวัญผู้ประเสริฐ
เป็นแต่กําเนิดเบื้อง บุญสร้างแต่หลัง
หญิงใด๋ได้ ผัวชมผู้ใจก่ํา
เป็นแต่บาปแต่ก่อนพุ้น ปฐมตั้งแต่งนํา
เป็นแยงเงาแก้ว เอากระบวนไผค่อง
คันว่าคนผู้ฮ้าย เขากะฮ้ายดั่งเดียว
ฟ๎งเยอ นันทาเนื้อ ธิดาจําจื่อ เอาเนอ
คึดให้ตกฮ่อมแล้ว ยามดีได้ก็จึงเอา พ่อเนอ
อันหนึ่ง มหาตั้ง บุญใหญ่คนโฮม ก็ดี
อย่าได้อาวรอก ด่วนดอมกระสันหลิ้น
ควรที่ทอของไว้ กองบุญประสงค์แต่ง ทานเนอ
ยังหนุ่มน้อย บุญเจ้าจึงแฮง
ทานเมื่อไฮ้ ผลาอ่าวยังแฮง
ทานเมื่อกําลังแฮง จึงดีเมือหน้า
ของทานเจ้า ประสงค์ดีล้างส่วย
ใจอย่าฮ้าย ประสงค์ตั้งต่อทาน
สวยรวยตั้ง กลางเฮือนซ้องพระเนตร
แปะใส่เกล้า ประนมน้อมซู่คน
อย่าได้เฮ็ดลื่นด้าม สะไบผ้าลากดิน
อย่าได้เอาสมเพี้ยง เทวีลงข่วง
เห็นเพิ่นย่องและน้อย อย่าฟ้าวว่าโต
อย่าได้เอ้ลื่นด้าม พ้นเพิ่นกรายประดัด
เฮ็ดให้พอประมาณ แม่นตาคนเฒ่า
ก็จึ่งได้ชื่อว่าใจใสตั้ง มหาทานอันประเสริฐ
นับมื้อใสสิ่งแก้ว ทั้งค่ายหากกระสัน พ่อแหล้ว
อันว่าปางบุญนี้ หญิงชายน้อยใหญ่ เฮานี้
คําคิดมาผอกตื้น ประสงค์เอ้ม่ายกัน
ยามใด๋ลีลาย้าย ไปมายัวระยาตร
อย่าได้นั่งแทบใกล้ สาวน้อยบ่ดี
ให้นั่งตางมือเฒ่า บายของประสงค์แจก ทานเนอ
ให้นั่งใกล้ผู้เฒ่า เฮียนฮู้ฮีตคลอง
จึงได้ชื่อว่าใจใสตั้ง โมทนาทานทอด
บุญก็จึงได้ คําฮู้ก็จึ่งมี
ยามเมื่อมหาเถรเจ้า ตั้งสูตรมหาชัย
ให้ค่อยยอกระพุ่มมือ ใส่หัวประสงค์น้อม
ผายแผ่ให้ บุญคู่ตัวสัตว์
อย่าได้เห็นแต่คําโมโห หมู่คําเชิงชู้
แม่นว่าใจประสงค์ด้วย ผัวขวัญผู้ประเสริฐ
ไปเป็นที่ฮ้อน ประสงค์ตั้งต่อบุญ
หากจักชูชักน้าว เสนหาหามส่ง
เป็นที่อันประเสริฐแม้ง มะโนข้องอยู่แฝง พ่อแหล้ว
ชาติที่เป็นบัณฑิตฮู้ ซอมหญิงหลายส่ำ
เพิ่นหากเห็นเพดฮู้ ยินค้ามถืกใจ
อันว่าคนสลาดฮู้ บ่มีให้แว่แสน"
"บทคดีธรรม คดีโลก"
"บัดนี้ มาจักคัดทะนาให้ เห็นคลองคําถ่อย
นันทะนาถเนื้อ นางน้อยให้จื่อเอา พ่อเนอ
หญิงใด๋เสินเสอต้าน กลางผามนั่งเยี่ยว
เฮ็ดเพดงามยิ่งย้อย ยอย่องว่าโต
มันก็แปงคีงให้ ฝูงชายแยงฮูป
คําปากกล่าวอิ่นอ้อย คําเว้าช่างจา
ซ่าหมากยู้ตั้ง แจกหมู่ชายโถง
มันหากทํากระบวนเป็น เพดนางใจกว้าง
หากว่าโตงามแม้ง ประสงค์แยงนางเอก
เฮ็ดเพดดั่งมีหมื่นชู้ คําเว้าบ่เบิ่งไผ
มันหากแสงแสนหน้า หาชายคืนฮุ่ง
มันบ่ได้กล่าวต้าน คําเว้าฮอดบุญ
คําปากยังกล่าวต้าน เรียกว่าเอาบุญ
ใจหากยังพาโล คอบคําเชิงชู้
บุญบ่มีหวังค้าง คาคีงพอถ่อง ตัวแหล้ว
อาบน้ําบ่สีส่วยล้าง ตมซ้ําแปดหัว
อันบ่ตั้งต่ออัน นั้นใจวอนมา
สิเอาบุญมาค้างตัวได้ บาปซ้ําตื่มเริง
อันนี้หญิงถ่อยฮ้าย เฮียกว่าหญิงโถง
กัลยานาง อย่าเทียมนําแท้
แม่นว่าโสมสนิทเพี้ยง เพียงนางประเทศต่าง ก็ดี
คําคิดมันผอกตื้น แบให้เพิ่นเห็น
ไผอย่าขันอาสาเลี้ยง แนวชะนีฮู้ค่วง
มันหากเคียวบ่มั้ว ผองเท่ากระดูกดอม
ชายใด๋เอามาซ้อน เข็ดขวางสิคืนคอบ คีงแหล้ว
ย้านบ่เสียแต่เบี้ย โตซ้ําจุ่มนํา
ชาติที่เอาหินถิ้ม กลางแม่กระแสหลวง
มันหากจมอยู่พื้น สมุทรนั้นบ่ห่อนฟู
อันนี้ คลองถ่อยฮ้าย สอนสั้งนางคาญ
อย่าได้เอาหัวเทียม เถียบนําฝูงนี้
เพิงที่อุตสาหะตั้ง เอาบุญดวงประเสริฐ
ให้สืบกําเนิดเบื้อง บุญส้างแต่หลัง
อย่าได้อามิสด้วย ของทานให้โสภาพ กันเนอ
อย่าได้เห็นแก่โสมฮูปเจ้า ตนเลื่อมจั่งสิทาน นั้นเนอ
อย่านั่งเคี้ยวหมาก บ่คิดอ่านนานลุก
ชาติที่แนวมหาเถร ดั่งกุญชโรช้าง
เพิ่นหากลือชาช้าง ราชวงศ์ตัวอาจ
ไผผู้ลวนนั่งใกล้ งาช้างสิเสียบแทง
อย่าได้ซําเซียเว้า มหาเถรยามค่ํา
มันบ่ใช่แนวลูกช้าง กุมคล้องบาปสิกิน
เฮาหากเห็นเริงแล้ว สาวฮามปางก่อน
นักปราชญ์ฮู้ถืกบ้วง อี่หญิงฮ้ายใส่กะแป
ตั้งหากเสียแฮงเจ้า ภาวนาผายแผ่
หญิงผู้ฮ้าย มันขี้ใส่คุณ
หากว่าสิขันอาสาค้ํา เอามาเป็นลูก
เห็นฮูปงามยิ่งย้อย ถนอมป้องใส่โต
แล้วเล่าอุปโลกน์ย่อง ทําเพดเป็นกะดัด
กวนแต่เทียวมาหา ฟากกะฎีหลายครั้ง
ยังเล่าแปนนมอ้าง มหาเถรในเขต
เฮ็ดเพดมีเหตุฮ้อน กวนเว้าต่อเลีย
มันหากสีดําเข้า คือไฟด้นชุ่ม
ฝนหากรินรวดมื้อ ดังได้กระบ่เฮือง เจ้าเอ๊ย
คันหากอยู่คือแก้ว ธํามะรงค์บ่มีหม่น เป็นแหล้ว
ตมหากมาแปดกั้ว คีงเจ้าก็จั่งหมอง
ชาติที่อํานาจกั้วแก้ว ก็จั่งเกิดเป็นหิน
แม่นว่าพิฬาใส ถืกตมกะเลยเศร้า
ตั้งหากเสียสินค้า เต็มสะเภาเฮือใหญ่
ฟองหากบ่มาฟาดข้าง แสนเว้นก็หากฮุน
หญิงหากอามิสด้วย บ่ถมคุณคําซื่อ
เขิงอยากเอาผ้าฮ้าย มาหุ้มห่อคํา
หากอยู่ตามใจน้ํา สะพังหินบ่มีขุ่น เป็นแหล้ว
ควายแม่เก้งมาผอกฮ้าย ฟูมน้ำบ่อยากหนี
เป็นที่เหลือมือเจ้า คุมแฮมาตกสี่ เสียแหล้ว
เขาฮอมาเกิดเกี้ยว ลําอ้อยก็จั่งขม
มาฮ่าวปีนบิดขึ้น อาชานัยทางกระน่อง
บุญบ่สมสะอาดม้า อานแก้วสิค่องคือ เป็นรือ
ฟังเยอ นันทะนาถเนื้อ เจ้าพ่อเพิงคึด
อันว่าสมภารคน ก็บ่เพียงกันแท้
ลางคนมาเฮืองด้วย เยายาปัวพยาธิ์
บางพ่องมาขึ้นด้วย คําฮู้สั่งสอน
ลางคนอาสาค้ำ การเมืองยูแต่ง
คําสุขมาบ่ล้วน เสมอเพี้ยงเพดคน
ยามใด๋เจ้า บายของไปแจก
ใจอย่าเพียงพิ่งแท้ เห็นใกล้แก่โสม
คําพ่อสอนสั่งไว้ อย่าสุลืมคําสั่ง
ทางหากติดต่อบ้าน อย่าได้ผีกหนีไป
หากใจใสทานแล้ว ภายลุนอย่าได้จ่ม นําเนอ
ของหากทานขาดแล้ว ประสงค์ต่อกองบุญ
ให้ค่อยหอมของไว้ กินทานดอมเพิ่น
อันที่จูงขึ้นฟ้า ก็มีแท้แต่ท่อบุญ
บัดนี้ พ่อจักพัดต่าวตั้ง สอนลูกคลองเฮือน
ตามที่ขาใส แต่เฮาเฮียนได้
หญิงใด๋ฮู้ ขะลําคีงสงัดอยู่
เทวดาอยู่ฟ้า มาเฝ้าหมื่นตน
หญิงใด๋สงวนสู้ ตัณหากามโลก
ฝูงหมู่เทพไท้ เห็นแล้วถ่มน้ําลาย
คันว่ามีของได้ แนวใด๋บ่ประเสริฐ
แม่นว่ามีลูกเต้า โรคาฮ้ายบ่เหือดคีง
ขี้มูกย้อย ยามย่างแหลวไหล
ไผบ่ยินดีฮัก ใส่เพลาเอาอุ้ม
แม่นว่ามันมีชู้ โสมบ่งามเพียงเพิ่น
แสนว่ามีหน่วยแก้ว มาไว้ก็บ่คูณ
เพราะว่าผัวไฮ้ หีนะชนใจถ่อย
หากจักนอนน้ําฮ้อน ทั้งคั้นเปลือกแดง
หญิงผู้บริสุทธิ์นั้น เทวดาชูช่อย
จักได้อ่อยฮ่อยหน้า มาไว้อุ่นเฮือน
เพิ่นว่าเทวดาค้ำ ของเฮือนมูลมั่ง
แม่นว่ามีลูกน้อย ไผอุ้มกะบ่วาง
แม่นว่ามีผัวได้ ใจดีกว้างเผื่อ
คําคึดมันบ่ตื้น ทั้งค่ายเพิ่นสงวน
ไผผู้ยังเป็นพื้น ขะลําคีงสงัดอยู่
เป็นดั่งหมอคล้องช้าง ประกําเจ้าขุ่มงํา
คันว่าขะลําได้ พลีกรรมเลี้ยงแม่น
ผีหากชูช่อยน้าว ประกําช้างใส่คลอง
ปลาบ่ยินดีบ้อน ชลธาเขินขาด
หงส์หากชมชื่นเต้า สะพังด้วยดอกบัว
ชาติที่มาลานี้ ดวงหอมฮดฮ่วง
ไผผู้เซาฮ่มใกล้ ดมแล้วบ่อยากหนี
อันว่าดงหลวงหล้าง มีพึงคณาไม้ใหญ่
นกหากชมชื่นด้วย ลําไม้ฮ่มงาม
อันหนึ่ง เป็นดั่งอโนมากว้าง วังหลวงบ่มีขาด สะเพาแหล้ว
บุญน้ํายังเบ่งกว้าง หลายห้วยฮ่อมโฮม
ยูงหากแพงกลัวแม้ง เฮียวหนามบ่มีเขี่ย คีงแหล้ว
แฮ้งหากฟูมซากฮ้าย คีงเศร้าสาบควาย
อันนี้ อุปมาแท้ มาเทียมสอนโลก
หญิงใด๋ผู้ประเสริฐฮู้ ศีลห้าอยู่ดอม

หญิงผู้มีศีลนั้น คีงมันก็หอมยิ่ง
ฝูงหมู่อินทร์อยู่ฟ้า มาเยี่ยมซู่ยาม
หญิงบ่มีศีลนั้น คีงมันเหม็นสาบ
เป็นดั่งผีซากฮ้าย ไหลค้างแค่เฟือย
สบเหล็กแฮ้ง อเวจีสับหน้าผาก
กาหากสับฮ่างฮ้าย บินเฝ้าเวิ่นบน
ชาติที่ของเหม็นนี้ แมงวันเขียวสิหัวต่อ
ขางหากขี้ใส่แล้ว หนอนนั้นสิบุ่นกิน
กาหากบินสงวนสู้ แสวงหาแต่ของเน่า
แฮ้งหากตบปีกเปื้อง หัวท้าไข่ขาง
หญิงบ่มีศีลนี้ สีตายบ่ทันเน่า
หนอนหากลักดั้นข้อ เขียวอ้วนแต่ใบ
ขวัญหากเมือแฝงพื้น อะเวจีหม้อใหญ่
ยังแต่โครงซากฮ้าย กาสู้ชื่นชม
ฟังเยอ โสมเสลาเนื้อ นันทาเจ้าพ่อ กูเอ๊ย
คลองหากมีสิ่งนี้ กูเฒ่าก็จึ่งสอน
ยามใด๋เจ้า หวังสิเชยชมคู่
ใจอย่าฮ้าย ฟูนเข้มข่มผัว
ชาติที่กะกูลนี้ คนชายยังแก่
หญิงบ่มีผู้ซ้อน ไผบ่ย้านหย่อนกลัว
วังบ่มีขอนขว้าง พรานแหบ่มีหย่อน มือแหล้ว
น้ำบ่มีเงือกเฝ้า คนใบ้บ่อยากเจียม
เพิงที่เอาผัวให้ เป็นอาจารย์สอนสั่ง
อย่าดอดอ้าง หัวล้านลื่นครู
หญิงบ่มีชายซ้อน คนเกกลางกาด
เป็นดั่งฝากะตาดฮ้าง กลางบ้านเกือกตม พ่อแหล้ว
เป็นหญิงให้ เอาชายเป็นช่าง
เฮือนบ่ย้าน โจรฮ้ายหากสงวน
ชาติที่คนฟันไม้ ลํากะยูงก็ยังเมื่อย
ลําบ่มีแก่นนั้น เขาสิป้ำง่าฮอน
อันหนึ่ง บัณฑิตย่อง ยอหญิงอันต่าง
หญิงผู้สลาดฮู้ ใจกว้างแผ่ผาย
ยามใด๋ผัวหากขนขวายได้ มาเฮือนให้เบิ่ง
คึดฮ่ําฮู้ เห็นแล้วแบ่งบาย
ทั้งมวลนั้น ปันเป็นสามส่วน
ส่วนหนึ่งนั้น ถนอมไว้สืบเฮือน
ส่วนหนึ่งวางเวนให้ มหาเถรทานทอด
ส่วนหนึ่งยายพี่น้อง ฝูงใกล้คู่เฮือน
ฝ่ายหนึ่งยายไปเบื้อง วงศาหลายแห่ง
แบ่งพูดไว้ เมือเบื้องแม่ผัว
ถมคุณไว้ ตามคลองสะใภ้เพิ่น
ถนอมยิ่งไว้ เสมอเพี้ยงแม่ตน
หัดว่าเลี้ยงหมานี้ หวังกลางกินดูก
มีลูกใภ้ อาศัยย้อนเพิ่นแฮง
ฝูงหมู่เคยแก่นฮู้ อาศัยเพิ่งคํากิน
เทียวมาหา ยื่นแลบายให้
อย่าได้ซอมงอมก้ม ซํางําย้านแต่แก่ม กินเนอ
ของออกเฮือนละน้อย อย่าฟ้าวฮ่ำไฮ
เพิงที่เผยแผนไว้ โวหารกว้างเผื่อ
ใจอ่อนน้อม คําต้านก็อย่าแข็ง
ยามใด๋ผัวหากทําการด้วย คลองเฮือนแคลนยิ่ง มานั้น
เมียอย่าเคียด คําฮ้ายเสียดหู
ชาติที่กําลังนี้ แฮงคนฮู้ค้นเหตุ
ว่าไปแต่ละน้อย หัวคิ้วอย่าตอม
อย่าได้มุซุหน้า อุนอูฮีบไค่
ให้หาพาข้าวไว้ ดาถ้าฮีบเฮียง
ทั้งเฮือนพร้อม มารดาพ่อแม่
ซีซั่วอ้อม พาข้าวซู่คน
อย่าได้พาเดียวตั้ง กลางเฮือนกินเปลี่ยว
เฮ็ดเพดอายอยู่บ่แล้ว ผัวเจ้าสิห่างเฮือน พ่อแหล้ว
ผิหากเลิงเห็นเบื้อง ทางไปสิมาบ่ง ตีนแหล้ว
ฝูงหมู่ซ้าฮ้างนั้นแมวฮ้าย มันสิขึ้นห้อยแขวน
เฮือนใด๋ยังกินข้าว หลายพามับแมบ
เศิกหากมีบ่มั้ว ใจน้ำบ่ค่องปลา
เฮือนใด๋ยังกินข้าว พาเดียวเป็นหมู่ กันนั้น
คําฮักยังช่างตุ้ม กันไว้หมื่นอสง
อันหนึ่ง ผัวไปค้า ของคานให้ฮีบแต่ง
เมียนอบนิ้ว ประสงค์ซ้ําส่งพร
ก็จึงมีชัยได้ เหลือทึนออกเกิ่ง
เมียขะลําบ่ได้ ทึนค้าสิจุ่มเสีย
อันหนึ่ง ฮักผัวให้ ใจผายผลเผื่อ
ฮักผัวให้ฮักพี่น้อง แนวเชื้อแม่ผัว พ่อเนอ
คําฮักให้เป็นดั่งกุญชโรช้าง อัศดรฮักลูก
คําฮักอย่าได้เป็นดั่งลมเบิกไม้ ยามน้อยหนึ่งเหย
อันว่าผัวผ่านห้อง สองแพงฮักฮูป
อย่าใช่ได้เฟิมฟ้าว ประโลมอ้อยอิ่น
ฮักบ่ทันฮีบฮ้อน อุ้มใส่เทิกตัก
ย้านท่อฮักบ่ทันพอยาม หน่ายสะอางปานแฮ้ง
ชาติที่ยามหนาวนี้ ฝิงไฟก็ยังอุ่น ทวงแหล้ว
เถิงกาลฤดูฮ้อน กลายใกล้ก็ว่าควัน
อันว่าคําฮักแม้ง เสนหาซากจวบ กันนั้น
ผิบ่เป็นกระดูกนี้ เฮียมสิอ้าปากกลืน
ชาติที่หมาเห็นข้าว คามือหากสิสวบ
ยามเมื่อกินอิ่มท้อง แสนสิเอิ้นกะแล่นหนี
เพิงที่คําคึดไว้ ในใจพอพ่าง
ช้างหากเฝิกแอบฮู้ ถนอมไว้คั่วเข็น
เงินหากมามอบแล้ว ชู้สิเกิดเป็นผัว
หัวหากเคยฮียงหมอน สาดสิฮองทางพื้น
น้องเคยฟูมสนุกเล่น บัวลอยน้ําแก่ง
แสนว่าน้ำสิมากถ้วมฟ้า บัวสิยื้อหยืดนํา เจ้าเอ๊ย
คันหากคูณขวัญแล้ว คําสัญญาซ้อนคู่
แก้มหากจุปากแล้ว ประสงค์ซ้อนค่อยชม เจ้าเอ๊ย
มือหากเถิงคีงแล้ว บ่บายนมฟ้าสิผ่า
ชาติที่แนวลูกไม้ขุแล้วห่างลํา เจ้าเอ๊ย
โอนอ สิขายโตเมื่อเป็นข้อยจอมนิฮม บ่เยื่อนไถ่ เอารือ
อ้ายนี้ บ่ใช่ข้อยพระเจ้า สิไปย้านฮ่อมใด๋
บัวพันเอ๊ย ให้เจ้าจงจิตไว้ ทางเดียวล่องซ่อง
กองใจไว้ พันมื้ออย่ามาย
ให้คิดสิ่งนั้น ฮาเจ้าสิค่องกัน
โอนอ เจ้าผู้ดวงดอกไม้ ซ้องซ่อพิมมะหา พี่เอ๊ย
ยามเมื่อไกสรไข กาบกระจวนจูมอ้า
เจ้าสังบ่อัดหี่ไว้ ไกสรหอมอ่อน พระนางเอ๊ย
สังมาปละปล่อยไว้ วางก้านเหี่ยวดาย
โอนอ เห็นว่ามีเฮือแล้ว อย่าลืมแพไม้ไผ่ เสียเนอ
อันว่าแผนห้าฮ้าน กะยังน้อมต่อบอง
กลัวบาดน้ําท่วมแก้ง สิยอมอยู่ยีแยะ เจ้าสิหวั่งเวแหล้ว
คันว่าโตนกลางแปว เงือกสิกุมกินเจ้า
อันนี้ หนังสือนัก ปราชญ์อินทิญาณ
ซักนิทานแม่วอก แลนโมนสอนลูก
แล้วท่อนี้ ไปหน้าบ่จาเจ้าเอ๊ย"
"บทพระเตเมย์ใบ้"
"บัดนี้เตเมย์ ปัดเสนใหญ่ นาโถถามเหตุแล เจ้าเอ๊ย
บัดนี้ข้าจักวันทาไหว้ มหาคุณตนประเสริฐ
ขอให้บุญหุ้มเกล้า เสถียรมั่นหมื่นปีแด่เนอ
ขอให้มีลูกแก้ว ผู้ประกอบกับตน นั้นเนอ
กับทั้งวงศาสาย ประเสริฐดีดอมข้อย
ข้าจักวานทั้งใต้แผ่นพื้น นางนาถธรณี ก็ดี
ขอให้มาชูชัก ช่อยเฮียมปางนี้
เฮียมก็แปงสารแก้ว ถวยพระอินทร์ตนประเสริฐ
นางธรณีอยู่พื้น มาค้ำช่อยเฮียม แด่ถ้อน
บัดนี้ เฮียมจักสอนสั่งไว้ ในโลกหญิงชาย
ให้ค่อยเอาใจฟัง เบิ่งคลองคําฮู้ พ่อเนอ
ก็พากันต้าน ตามค่องสุภาษิต ฝูงนี้
ปางปู่สอนสั่งไว้ หลานหล้อนจื่อจํา แด่ถ้อน
ทําคนให้ ถนอมตนไว้ต่ำ ดีดาย
อย่าได้เป็นสิ่งเกิ้ง สะแอนั้นบ่ดี
ทําคนให้ คืออัมพาหมากม่วง ดีแหล้ว
สุกนอกนั้น ในจ้อยเปลือกเขียว แท้แหล้ว
ไผผู้ได้ชิมจ้อย หวานเริงแหงนเบิ่ง ดูนั้น
อย่าได้เป็นดั่งหมากเดื่อพั้ว แดงเข้มบ่ดี
ทําคนให้็ดั่ง สกุณีนกเจ่า จริงเถิ้น
มันก็จับอยู่ข้าง หนองน้ําดั่งตอ
ไผบ่ฮู้นั้น คองว่าเป็นหลัก
กว่าบาดยอคอบิน ก็จึ่งเห็นขาวแจ้ง
มันบ่แปงเชิงให้ ไผเห็นโดยง่าย
แยงพี่ต้าน พอแล้วจึ่งไข
ลี้อยู่แท้ เสมอดั่งพาลา
ไผบ่มาถามเถิง ก็บ่ไขคําฮู้
ทําคนให้เป็นดั่งจ้อง กั้งหลูบก็ยังเป็น
ยามเมื่อลมพานหด หลูบเสียเสมอจ้อง
เป็นดั่งใยบัวฮ้าย ฮังบาทตีนสาร หั้นแหล้ว
คันว่ากุญชโรบาย ฝ่าตีนตอล้ม
อันว่างูพิษฮ้าย มนต์เป่าก็ยังหาย
อันว่าหัวใจคนผิด เป่ารือสิหายได้
เป็นดังผ้าดอกไม้ ปลาอยู่วังเดียว หั้นแหล้ว
ปลามันมาอาศัย ดอกบัวหอมเอ้า
อันนี้คือดั่งคนบาปฮ้ายอ ยู่ฮ่วมคนบุญ เจ้าเอ๊ย
เขาก็ใจไกลกันเหมือน ดั่งดินไกลฟ้า"

"บทปัสเสน คำสอนทั่ว"
"บัดนี้ กาละนับมื้อส้วย หลายปีเป็นอันต่าง มาแหล้ว
พระหากเทเทศน์ไว้ ภายซ้อยศาสนา เจ้าเอ๊ย
ฝูงหมู่หญิงชายนั้น สิบสามปีมีลูก
เฒ่าแก่หัวหงอกฮ้าย กะเสินพ้นเพดสาว
อันว่าชีสมณ์ซื้อ งัวควายขายจ่าย จริงแหล้ว
นักปราชญ์ถมแม่น้ํา นทีกว้างสิขาดเขิน
แม่นว่าสังฆะเจ้า ทรงธรรมในสูตร ก็ดี
ยังเล่าแปงจ่ายซื้อ เงินฆ้องคั่วขาย
ลางเล่าจงจํามั่น คําสอนพุทธบาท ก็มี
สังฆะสมสิ่งนั้น มีน้อยหากบ่หลาย เจ้าเอ๊ย
โจราได้ ทวยคํามาขี่ ก็มี
นักปราชญ์เป็นง่าวง่วง ถือกระเบื้องคั่วขอ
คนหลักเป็นคนใบ้ ใจเบาคึดบ่ถืก คลองแหล้ว
หินแฮ่ไหลล่องแก้ง โฮฮ้องสนั่นเนือง
กบเขียดกล่าวฮ้อง ปะหอนอ่านโคลงสาร สิ่นนั้น
หินอยู่น้ำไหลล่อง ในแม่ นทีนั้น
ปลาบึกขึ้นอยู่ลี้ ปลายไม้สิ่งแลน
ปูปลาฮู้เปิดน้ํา หนีหน่ายวารี
เขาก็แยงภูผา เพื่อนคณาเนาค้าง
เขียดโม้ฮ้อง ปะหอนอ่านโคลงสาร
ฝูงหมู่งูเพาพิด เยือกกลัวเกรงย้าน
อุแอ่งหม้อ หมางน้ำว่าสิหนี
เอี่ยนก็มาเปิดน้ำ หนีจากวังตม
เขาก็ไปแปงฮวงฮัง อยู่เทิงปลายไม้
งูเงือกพร้อม หนีเขื่อนอโนมา
มาลาฮ้าง ฮามสูญเสียกลิ่น
หงส์คําก้มขาบไหว้ ประนมน้อมแก่กา
หมากพร้าวมาเปิดต้น ปละป่วงลงดิน
ครกมองฮู้ หมางเหม็นข้าวเปลือก
ชาลาศมาเปื้อยเบี้ย แถมชิ้นใส่ใน
จวงจันทน์หล้าง ของแพงทางเทศ สะเพาพุ้น
บัดนี้มาคั่วห้อย หูซ้าเที่ยวขาย
มณีนิลแก้ว กลายเป็นหินแฮ่ มีแหล้ว
ขอนดอกเนาอยู่น้ำ ็ต้นป่งใบ
มณีนิลเศร้า เสียแสงสรรพเพศ ก็ดีถ้อน
ชาติหินแฮ่กลายเกิดเป็นหน่วยแก้ว พิฬาเข้มค่าแพง
บัวขี้แบ้ บานเกิดกลางหนอง
บัวทองเกิด หัวสวนบ้านเก่า
ที่เลิ้กมาแล่นตื้น ไปโห่งบ่อนเขิน
กาดําบินไปลี้ นอนภูถ้ำใหญ่
ผ้าแผ่นล้าน ตัวเต้าต่ำปู
ปลาก่าบินบนแฝง เมฆโพยมยังฟ้า
หนูซิงทําตะบะให้ แมวบักคําก้มขาบ
หมาจอกมาเห่าช้าง เป็นน่าอยากหัว แท้นอ
คันคากฮ้อง ขัดแข่งแข็งฝน สิ่งนั้น
ไส้เดือนฮู้ บินบนอากาศ
หินก้อนล้าน ฟูน้ำล่องไหล
อันนี้ สังกาศเถิงห้า พันวัสสาสังเขต พ่อแหล้ว
นักปราชญ์ลงเลขไว้ เกณฑ์ตั้งถ่ายเดือน
ลงสามฐ้าน มาคูณฐ้านต่ำ
คันห้าคูณค่องแล้ว ซาวห้าเศษศูนย์
ปักทึนเข้า เฮืองสูรย์สุริเยก
สองฮ้อยซาวแปดตั้ง คูณไว้บวกบน
ลัคคะนาดั้น ปันทะจรหนีเมฆ
พฤหัสอยู่ป้อง ในฐานเส้นศูนย์
อังคารเข้า เฮียงจันทร์เจียระคาต
ขิยะขําเขือกฮ้อน เมืองบ้านบ่สะบาย
บังเกิดด้วย วิวาทลิษณะ
เขิงขุนในชมพู บ่สะบายเมืองบ้าน
โรคาพร้อม โภยภัยพิษพยาธิ์
ขําเขือกฮ้อน ฮอมซ้ำเกิดแถม
แม่นว่าสิบไพร่น้อย ฮ้อยหมื่นแสนพระยา ก็ดี
มีคําขัด แข่งกันกวนอ้าง
ไผผู้เฮียนเถิงถ้อง เห็นคลองในนอก มานั้น
ให้ค่อยหลิงเลศแล้ว ดีฮ้ายฮ่ำคนิง หั้นถ้อน
อันนี้ พอแต่เตเมย์ไว้ ปานถามถวยม่อน ฟังเยอ
คันหากคูณค่องแล้ว เคยคิ้วกว่าหมอ เจ้าเอ๊ย
อุบาทว์บังเกิดแล้ว อย่าว่ายัง ๆ อยู่เถิ้น
เข็งท่อชวนกันได้ เจ้าจั่งเป็นหมอ จริงแหล้ว
อุบาทว์ขําเขือกฮ้อน เทวะท้าวปันดล เจ้าเอ๊ย
มึนทึนแท้ ทุจเรหีนชาติ มีแหล้ว
พระหากเทเทศน์ไว้ ภายช้อยศาสนา
หีนัง แท้ ถุชชะนังคนบาป นี้แหล้ว
ปิตุฆาต ฮ้ายฮอมซ้ำ เกิดแกม
ลูกบ่มียําย้าน คุณคามพ่อแม่ มันนั้น
ศิษย์บ่ย้าน ยําแท้ต่อครู
ฝูงนี้ เวราฮ้าย อาธรรมปิตุฆาต จริงแหล้ว
สาสนาจึ่งเศร้า คําไข้ก็เล่ามี
เมียบ่มียําย้าน ถือผัวแข็งข่ม
นักปราชญ์เถิงฮีตฮู้ ประจิตย้มบ่ยอม
จําใช้แต่ลาน การมีฮ้อนฮ่อมไป
หลอมมีพอบาป หลายล้นกว่ากอน
คนมีน้อย ขุนหลายเหลือไพร่
หัวด่อนได้ นําก้นก่อนดํา
โอนอ. สังเวชในอกข้อย แถมทวงเทียมท่อ ธุลีแหล้ว
จึงได้แปลป่านไว้ ประเหียนน้อยหนึ่งถวย
นับอยู่ยืนยาวมั่น ยืนแถมสังเวช ก็ใจแหล้ว
ย้านท่อได้ หล่าหลงบาทชะเห็น นั้นเด๊
บุญเอ๊ย ขอให้ชูชักข้อย หนีโภยพ้นหลีก ปางนี้
ขอให้พบผู้ประกอบแก้ว บูฮาณแม้งยอดธรรม แด่ถ้อน
บุญคุณสร้าง สมภารปางก่อน ก็ดี
ขอให้มาช่อยค้ำ ชูข้อยจากโภย แด่เนอ
อย่าให้พบพี่น้อง ปิตุฆาตเวรา ดั่งนี้
ศีลทานธรรม ช่อยชูคูณค้ำ
สงสารปลิ้น ไปมาแปรปิ่น
บ่เที่ยงมั่น คือแท้ดั่งนิพพาน เพิ่นพุ้น
เป็นคนเทียวสงสาร บ่เที่ยงธรรมคือน้ํา
ลางเล่าบางบกแห้ง บางเล่ามีมูลมาก
บางเล่า เขินขุ่นเขี้ยว มีแท้ผ่องใส
อันนี้ พอแต่แปลประเหียนไว้ ผญาไวคิดฮ่ำ คนิงเยอ
ถวายแก่นักปราชญ์เจ้า ฝูงฮู้ฮ่ำคนิง แด่เนอ
ภายนอกนั้น ตามแต่ก็ใจจิต
ไผบ่หลิงวังกัง ฮ่ำคนิงนําได้
ทุกข์แต่ในโลกนี้ มีสี่สามประการ เจ้าเอ๊ย
เฮียมจักพรรณนาไป แต่คนคนิงแจ้ง
อันนี้ ปัดเสนเจ้า นาโถถามเหตุ
พระจึงเทเทศน์ไว้ ในโยตติกา
ทั้งธรรมบท ก็หากมีในหั้น
ทุกข์หนึ่งนั้นสองฮักฮ้าง ไกลกันพลัดพราก พระยาเอ๊ย
ตั้งหากเหลือที่ โทเรคิดอ่าวโอ้ คนิงให้หุ่งหา ท่านเอ๊ย
ทุกข์หนึ่ง เป็นคนข้า ทาสาสินไถ่ มานั้น
ฮุ่งค่ำเช้า ใช้แล่นตองตอย
ฮองฮอยท้อง คํากินบ่พออิ่ม
การเวียกใช้ แสนปลิ้นปิ่นเปีย
ทุกข์หนึ่ง เป็นคนข้อย ตัณหาฮ้อนยิ่ง พระยาเอ๊ย
ยามเมื่อเขาข่มได้ ถือแพ้ซู่อัน ท่านเอ๊ย
ลืมคุณแก้ว มารดาพ่อแม่
เฒ่าเว้าสอน บอกลูกบ่มีเอา
ชื่อว่าตัณหาเป็นห้าสี่ โลกคนคราวหน้า
ตั้งหากปานเป็นข้อย ห้าสาสินไถ่ เขานั้น
เวียกต่อมต้อย ขันค้ำซู่อัน
ฮุ่งค่ำเช้า แสนอยากกะยอมอด
หลัวฟืนทั้งตําตัก บ่อาจขืนเขาได้
การมีฟ้าว วัง ๆ ฮีบแล่น
ขันก่อนเกื้อ ตางเหย้าบ่ให้เคือง
ลางเทื่อการมีได้ ไปตายตางเต่า เริงแหล้ว
พ่อแม่เลี้ยง ถนอมไว้บ่ฟัง ท่านเอ๊ย
ยามยังน้อย หนาววอย ๆ ตุ้มกอด
ชมจูบแล้ว ลงเหล้นแล่นหนี
ไปไกลเอิ้น เอินนําหาเฮียก คืนนั้น
ไปหนีใกล้ ไกลย้านเพิ่นงาน
ลางเทื่อ เหนี่ยงข้าวปั้น ทั้งจี่ปลากับ
โตนลงเฮือน แล่นไปกินอ้าง
ไปสังฟ้าว วัง ๆ คิดฮอด
ลางเทื่อ ได้หมากไม้ มาต้อนอุ่นใจ
คิดว่าอาศัยเลี้ยง กินแฮงพาเพิ่ง ดอมนั้น
คราวบาด เลี้ยงใหญ่แล้ว คุณเฒ่าบ่มี ท่านเอ๊ย
ไปทําเพียรเลี้ยง ทาสาสินสู่ ภายพุ้น
กลัวบาดมรณาตแล้ว แยงกว่าล้านหมื่นเสา ท่านเอ๊ย
ทางฮอมหั้น สงสารเทียวโลก จริงแหล้ว
อนันต์เนกล้น เทียวขึ้นพ่องลง
หญิงชายพร้อม สังฆะเถรเณรหนุ่ม
ช้างและม้า สรรพสิ่งงัวควาย
ยน ๆเต้น ข่วงสนามพันห้อง
เป็นที่กลัวเกรงย้าน ยมพิบาลทั้งสี่ พระยาเอ๊ย
จตุโลกท้าว ทันใช้เที่ยวถาม
ถามแต่เค้า ลงเกิดในมนุษย์
ปิตุทั้งมารดา แม่นไผจริงแท้
แม่นไผแท้ นามใด๋นั้นก็บอกมา นั้นเถิ้น
ฝูงโคตรเชื้อ แนวชั้นชื่อใด๋
บุญคุณสร้าง โกศลเบื้องลุ่ม ภายพุ้น
บอกชื่อแท้ อย่าได้ล่ายพราง
จาคงไว้ นายเทียมทั้งสี่ พระยาเอ๊ย
ไผบ่อาจพิ่งเพี้ยง พาไง้ได้ท่อใย ท่านเอ๊ย
กลัวบาดสังฮอมแท้ มวลคุณและโทษ
อันว่าคุณพ่อแม่เลี้ยง ถมแล้วดั่งรือ นั้นจา
ยังไป่บรบวรแท้ จําแทนคุณพ่อ ภายพุ้น
ก็หากทุกขะเวทน์ใช้ ในหั้นพร่ำนาน ท่านเอ๊ย
ไผผู้อุปฐากได้ ยามเมื่อเป็นคน อยู่นั้น
ยังค่อยเบาบางบก บาปเวรยังน้อย
ดีท่อแถหัวเข้า ในคลองพุทธบาท พระยาเอ๊ย
แม่นว่ายามหนึ่งน้อย เพียงหน่อยหนึ่งกะถม ท่านเอ๊ย
แต่นั้น ปัสเสนซ้ำ วันทาพุทธบาท
ไหว้พระเจ้า นิมนต์ซ้ําเทศนา"
"อันว่ายากยิ่งกว่ายากนั้น ได้แก่อันใด๋ พระเอ๊ย
ขอจงเทศนาสอน สืบเมือภายหน้า
ตางให้ เป็นเกณฑ์ไว้ ลือซาทั้งโลก จริงเถิ้น
ฝูงหมู่หลักและใบ้ เขาฮู้ต่อไป
เมื่อนั้น นาโถซ้ํา เทศนาโอวาท
อันว่ายากยิ่งกว่ายากนั้น ในห้องโลกคน
คึดว่าทัวระเทียวห้อง สงสารยากยิ่ง จริงแหล้ว
นักปราชญ์เจ้า จําจื่อตรองดัด
คือว่ามรณาตาย ยากก็ใจจริงแท้
ยามเมื่อเวลาม้าง ปัญจขันธ์ย่อยยับ ไปนั้น
เศษพุ้งขึ้น ทนปากถือทวง
ตีนมือค้าม คีงเย็นสบเตื่อย
ตาเหลือกค้าง หูหิ้วหล่าหลง
ลน ๆลิ้น ลัวหลงยังเพศ พระยาเอ๊ย
ปากกล่าวต้าน ความหนึ่งเป็นสอง
ตาซนลน เหลือกไปพอย้าน
เป็นที่ลําบากแท้ ยากยิ่งอวิสัย ท่านเอ๊ย
กลัวบาดเวลาล้ำ กรรมมาเถิงม้อยสมิ่ง
ก็บ่มีไผผู้ พอสองนําเพิ่น พระยาเอ๊ย
ลูกและเต้า พงศ์เชื้อบ่ห่อนนํา ท่านเอ๊ย
แม่นว่าเมียมิ่งแก้ว ฮักขอดเสมออก ก็ดี
เงินคําของ บ่ห่อนไปดอมได้
ยังเล่าผากฏแท้ ศีลทานธรรมประเสริฐ
โตนั้น เหมือนดั่งได้ พลล้านเพิ่งพา ท่านเอ๊ย
บังเกิดเป็นพี่น้อง พลแห่แหนตาม
เหตุว่าทานภายหลัง ส่งเมือหาห้อง
ยากหนึ่งนั้น แม่นยอดแวนถนัด ท่านเอ๊ย
ปรารถนาได้ โสดาดวงยอด ทางพุ้น
เป็นที่ยากยิ่งเพี้ยง เพียรพร้อมกะบ่เถิง ท่านเอ๊ย
กรรมบาปฮ้าย ฝูงหมู่เวรา
ปาปังฮ้าย โทสาแสนยาก
เว้นหลีกได้ ฝูงนี้ก็จั่งเถิง แท้ดาย
คือดั่งเตเมย์เจ้า ปางหลังครั้งก่อน คราวนั้น
เจ้าก็ทุกขะเวทน์ใช้ ในหม้อพร่ำนาน
คันว่าเหมิดโทษแล้ว มาเกิดพงศ์กษัตริย์
ราชาพระ ค่อยเพียรถนอมเลี้ยง
อายุได้ เจ็ดปีปลายขวบ
เจ้าก็บ่ปากต้าน จาเว้าต่อไผ
เพื่อว่าศรีสะอาดเจ้า คนิงหวลเห็นชอบ
ชาติก่อนแล้ว หลังหน้าฮุ่งเห็น
พระพ่อเจ้า ปลงชื่อนามกร
ชื่อว่าเตเมย์มี ยอดชายเดียวเจ้า
บิดาพร้อม มารดาเชื้อโคตร
เขาว่าตนกืกใบ้ บาท้าวถ่อยผญา
พระพ่อบอกข้าน้อย ฝูงหมู่ทาสา
เอาเข็มมา เสียบแทงถามถ้อย
ก็บ่ยินเจ็บดิ้น โรทันตาไห้หุ่ง สังนั้น
ก็บ่ปานกูทุกข์อยู่ใช้ ในหม้อใหญ่อเวจี พุ้นแหล้ว
แฮ้งสบเหล็ก ตอดกินยังซิ้น
พระพ่อซ้ํา จําหมู่ทาสา
เอาบาคาญไป ปล่อยปลงวางไว้
เขาก็เอาบาท้าว ไปตามพระยาสั่ง เสียนั้น
แยงใส่ขวยมดลิ้น ทั้งก้นก่านลอย
เป็นที่อาวรแท้ ทั้งเมืองยินโศก ดอมนั้น
เจ้าเอาโทษเคราะห์ฮ้าย ฝูงนั้นบ่ติง
ก็บ่ปานกูเนาในหม้อ นิระเยยามก่อน คราวนั้น
ฝูงหมู่แมงงอดฮ้าย แคมหม้ออเนกนอง เจ้าเอ๊ย
สับตอดดิ้น พิษพุ่งปานลม
มรณาตาย อยู่เนาในหม้อ
ตายไปแล้ว คืนมาฮ้อยชาติ เลิงแหล้ว
ฝูงหมู่ซิ้น หนังหุ้มเปือยไป
ใจหนึ่งยังดิ้น ติงตนซี่เซี่ยน
เอ็นต่อไว้ คีงเนื้อก็ดั่งเดียว
เป็นดั่งเขาสีไม้ หูโปงปางก่อน
ติดต่อไว้ เวรฮ้ายแต่หลัง
พระพ่อซ้ํา จําจูดไฟลน
บาก็มีคําอด บ่ติงตนสะดุ้ง
ก็บ่มีเหมือนฮ้อน ปานไฟหม้อใหญ่ ภายพุ้น
ยามเมื่อออกจากหม้อแล้ว เขาปิ้งฮุ่มขาง
ฝูงกาแฮ้ง ชิงชอมาตอด
เจ้าก็อดโทษเยื้อน ฝูงนั้นบ่หลอ
พระพ่อซ้ํา เค็มเคียดโกธา
จําให้เอาไปฝ๎ง นอกเวียกวันนี้
กูนี้ตั้งแม่นชาติแท้ เสวยเมืองเป็นอาจ จริงแหล้ว
มาคั่วมีลูกเต้า คนฮ้ายกืกแถม นี้เด๊
สูอย่าช้า เฮวฮีบไปฝ๎ง เทียวเถิ้น
อย่านานสู ฮีบพลันเร็วฟ้าว
เขาก็หาก็ห้างรถแก้ว เกวียนคํามาใส่ ไปนั้น
คนอั่งล้น เลยฟ้าวแห่ไป
ทั้งเมืองให้ ดอมแพงภูวะนาท
เจ้าก็จับรถได้ ทะยานขึ้นสู่บน
ทัวระทวยฟ้อน กลางหาวอากาศ
ฝูงหมู่เสเนตล้อม ประนมเจ้าซู่คน
แต่นั้น พระพ่อฟ้าว อนุญาตขอพร
ฝูงหมู่ชาวเมืองเขา เบิ่งคนกุมเจ้า
จึงเถิงธรรมแท้ สัพพัญํูญาณยอด ปางนี้
เป็นที่ยากยิ่งแท้ เพียรพร้อมก็จั่งเถิง ท่านเอ๊ย
ปางนั้น ชื่อว่าเตเมย์เจ้า พุทธคุณคราวก่อน
ไผผู้เกิดพร้อม เวรฮ้ายบ่ห่อนมี แท้แหล้ว
ฝูงหมู่โจโรฮ้าย ปาปังเบื้องบาป ก็ดี
บ่ห่อนเกิดพร้อม พระธรรมเจ้าแผ่ผาย
ไผผู้ได้เกิดพร้อม พุทธบาทเตเมย์
สรรพโรคาทั้งอนตาย บ่ห่อนมีเบียนได้
บ่ห่อนอึดอยากแท้ ทุกขมอดขีนใจ
ยูท่างหญิงชายสนุก สําราญทั้งค้าย
เจ้าก็สังเขตไว้ ตั้งเขื่อนอายุ
พันปีทิพย์ เที่ยงจริงมีม้าง
เป็นเพื่อสมภารเจ้า เตเมพุทธบาท จริงแหล้ว
ยากยิ่งเพี้ยงจั่งได้ ญาณแก้วแผ่ผาย ท่านเอ๊ย
ยังจักมาภายหน้า มีใด๋โย่หยั่ง พระยาเอ๊ย
บ่อาจนับอ่านได้ พระธรรมเจ้าแปดอสงขย์
นับแต่ได้ ลัทธพยากรณ์
สื่อสงขัยปลาย อเนกธรรมทานเจ้า
บ่อาจสังขยาได้ บุญคุณคามมาก จริงแหล้ว
เหมือนดั่งโตกระต่ายน้อย ลอยข้ามแม่นที
อันนี้ เฮาก็เทศนาให้ เบาบางพอสน่อย พระยาเอ๊ย
อันให้เหมิดประเทสแท้ ธรรมเจ้าอเนกนอง
คนเกิดมาปางนั้น บรบวรทุกสิ่ง จริงแหล้ว
ทุกข์ยากไฮ้ สังนั้นบ่ห่อนมี ท่านเอ๊ย
อันว่าหิดกลากโม้ เฮื้อนโทษโทสา ก็ดี
ตาแดงฮ้าย เมามัวหูหนวก
เจ็บป่วยไข้ สังนั้นบ่ห่อนมี ท่านเอ๊ย
ยูสนุกสร้าง สมภารยศยิ่ง
บ่เดือดฮ้อน สังแท้ท่อใย
อุปมัยแท้ เทียมสวรรค์เทวโลก ภายพุ้น
สนุกยิ่งเพี้ยง พิฬาล้ําอยู่กระเสริม
หญิงชายพร้อม ปีติหุมหุ่ง
เมินมุ่งหน้า ช้อยชื่นโสภา
ปราเกียรติ์แท้ ลือซาเซ็งซ่า
คือดั่งแต้มแต่ฟ้า เขียนไว้ฮูปงาม
อันว่าชมพูพื้น เพียงงามเฮียงฮาบ
สรรพดวงดอกไม้ บานเลื่อมอยู่เริง
น้ําบวกท้าง บ่หอนขาดเขินบก
ยูท่างปูปลาฝูง หมู่หงส์ฟูมเฟื้อ
ไผผู้ได้เกิดพร้อม ในศาสนาทิพย์ เพิ่นนั้น
โภยภัยทั้งอนตาย บ่ห่อนมีมาต้อง
โยโกพร้อม บุคคะโลลาวโลก เฮานี้
ไผผู้ได้เกิดพร้อม เมตตรัยเจ้าย่อมยืน ท่านเอ๊ย
เจ้าก็สังเขตมั่น แปดหมื่นปีทัด
ในเมืองคน เที่ยงเสมอมีม้าง
หญิงชายพร้อม โลกากงโลก เฮานี้
เป็นที่หุมแห่ล้อม งามฮู้ฮูปสวย
บ่สูงบ่ต่ําแท้ แปดศอกโสมงาม
ในชมพู เที่ยงเสมอเริงล้วน
บ่เดือดฮ้อน สรรพสิ่งสันใด๋
ยูท่างหญิงชายสาว บ่าวนันเจียวล้อม
ฝูงหมู่คาเมบ้าน เจียระบาลขงขอบ
พอประมาณไก่แม่กล้า บินดั้นดุ่งเถิง
ปฐวิงพื้น ชมพูเพียงฮาบ
เหมือนดั่งหน้า กลองเกลี้ยงฮาบงาม
หญิงสาวสร้อย โสภามนุษย์โลก เฮานี้
บ่ห่อนเข็นหูกฝ้าย ทอด้ายต่ําไหม
คนชายบ่ห่อนได้ ทําที่คึดขาย สังนั้น
แหน่างแฮ้ว เทืองป่านปอบิด
บ่ห่อนทําการสัง ลอบลันไซต้อน
ก็หากเกิดมีในการะพฤกพร้อม ปลายชานผาสาท
ลาภหากเกิดพร้อม ในหั้นอเนกนอง
ใบกิ่งก้าน ชางยอดกาสา
ฮําแฮผ้า แสนคําควรค่า
หากเป็นด้วยลาภล้น ในหั้นหากเหลือ
มีทั้งข้าว สาลีเฮืองเฮื่อ
บ่ฝ๎งปลูกแท้ ทานยู้แต่หลัง
อาหารล้น ของกินมีมาก
แล้วเล่ายูอยู่เหล้น ทั้งมื้อม่วนกะใจ
ฝูงหมู่เงินคําแก้ว มณีนิลแสนโกฏิ์
บ่ห่อนไฮ้ สินสร้อยใส่เยีย
เมียมิ่งเหง้า อนันต์เนกนองทิพย์
บุตราทั้งนารี ฮูปเดียวเสมอแต้ม
พิมเสนคู้ เกศนาฮดฮ่วง
หอมฮ่วงเฮ้า นครกว้างหื่นหอม
ใต้ลุ่มฟ้า ในทีปชมพู"

"หญิงชายเลยจําศีล ซู่คนในบ้าน
ก็เลยผากฎเท่า ภายเทิงเทวโลก
อินทราชท้าว ควงฟ้าชื่นชม
วาจาหั้น มีสัจจังทัดเที่ยง
บ่เบี่ยงถ้อย ลวงเลี้ยวแง่งอน
บ่ห่อนฮู้โลภเลี้ยว ลักท่านพาลผิด เพิ่นนั้น
เงินคําของ อเนกนองเหลือล้น
เทโวซ้ำผายลงเท่าทั่ว
ฝนห่าแก้ว เดียระดาดเงินคํา
ตกทั่วเท่า พื้นโลกชมพู
ก็เพื่อสมภารพระ พร่ำเพ็งเหลือล้น
เจ้าก็นําสัตว์ข้าม สงสารแสนย่าน ยาวนั้น
บ่อาจนับอ่านได้ ธรรมเจ้าแปดอสงขย์ ท่านเอ๊ย
ฝูงหมู่เนาในหม้อ ปาปังปางก่อน ก็ดี
พระโผดให้ ดูเผี้ยนบ่หลอ แท้แหล้ว
ท่อว่ายังอกเหลือธรรมเจ้า เวรกรรมปิตุฆาต พระยาเอ๊ย
เจ้าก็โผดบ่ได้ จมพื้นพร่ำนาน ท่านเอ๊ย
เมื่อนั้น ปัสเสนซ้ำ วันทาทูลบาท
ข้อยเฒ่ายังอยากฮู้ มารห้าสี่ประการ พระเอ๊ย
อันว่าปิตุฆาตฮ้าย ฝูงหมู่เวรกรรม นั้นนา
เขาได้ทําปาปัง ดั่งรือใด๋แท้
ก็จึ่งทรงทุกข์ในหม้อ ในอบายนานยิ่ง ยามนั้น
เป็นที่โผดบ่ได้ เวรฮ้ายดั่งใด๋ นั้นเด๊
ขอแก่พระย่ำเกล้า คุณเกิ่งนาโถ
เทศนาสอน สืบเมือภายหน้า
เมื่อนั้น องค์พุทโธเจ้า ไขธรรมเทียมสูตร
พระยาก็ยอมือขึ้นหว่างคิ้ว ฟังเจ้าเทศนา
อินทร์พรหมพร้อม เทพานบบาท
ครุฑนาคพร้อม นางน้อยเมขลา
ฟังธรรมเจ้า เทศนาสอนโลก
อันว่ามารห้านั้น คนใบ้บาปหนา ท่านเอ๊ย
คือว่าสับส่อม้าง สังฆ์แตกเพทะลาย
ผัวเมียทั้งสหายฮัก แตกกันกวนม้าง
อันหนึ่งสาโหดฮ้าย ม้างแป่เจดีย์
ฟันโพธิ์ศรี แป่เพทะลายม้าง
มารฝูงนี้ เหมือนกันซาชั่ง จริงแหล้ว
หนักเกิ่งก้ำ ดินฟ้าชั่งชา
อันหนึ่ง เริ่มลักได้ดี ของพระสงฆ์พอบาท ก็
สับฮูปพระเจ้า เทม้างหล่อตี
ฝูงนี้โทสังฮ้าย พหุชะนังแน่นอั่ง จริงแหล้ว
เจ้าก็โผดบ่ได้ เวรฮ้ายหากเหลือ ท่านเอ๊ย
อันหนึ่ง ตีผูกฆ่า สังฆะหมู่มหาเถร
ด่าพระสงฆ์องค์เณร บาปหลายเหลือล้น
อันหนึ่ง ฆ่าพ่อแท้ จนถึงแก่ชีวิต
ทั้งมารดา ด่าตีปูนแพ้
ฆ่าพ่อแม่เป็นบาปฮ้าย มีสี่สามประการ ท่านเอ๊ย
คือว่าฆ่าด้วยอํานาจยก โทษแถมเถิงฮ้าย
ฝูงนี้ปัญจังฮ้าย มารังปิตุฆาต จริงแหล้ว
พระก็โผดบ่ได้ จมปิ่งบ่ฟู แลนา
เขาจักทรงทุกข์เนาในหม้อ สองกายกลับใหม่ มานั้น
ตราบต่อเท่า ไฟม้างมุ่นกระจวน
เป็นไง่ง่อง ควันเผ่าผงธุลี ท่านเอ๊ย
ตามกรรมสัตว์ บ่อาจสังขยาได้
ฝูงนี้ มารังแท้ ป๎ญจัง จัดที่ พระยาเอ๊ย
ให้หลีกเว้น มารฮ้ายห้าประการ ท่านเอ๊ย
เจ้าก็อุปะโชคแล้ว สถิตอยู่ตุณหิ
อินทร์พรหมทั้งเทพา เหนี่ยววอนวานไหว้
เมื่อนั้น ราชาเจ้า ป๎สเสนพระยาใหญ่
ก้มขาบไหว้ ประนมเจ้ายอดธรรม
อันนี้ ป๎ญจังแท้ คัมภีรัง ล้ำยิ่ง จริงแหล้ว
อันว่าลูกและเต้า เมียพร้อมพร่ําสหาย
ลางเล่ามีเมียซ้อน พอสองสามสี่
ลางเล่ามีลูกเต้า เหลือล้นมากหลาย เจ้าเอ๊ย
บุตราชพร้อม ฝูงหมู่เมียฮัก ก็ดี
ไผจักเป็นมุงคุล ประเสริฐดีดอมแท้
วงศาพร้อม ลุงตาเชื้อโคตร ก็ดี
จักว่ายังประกอบแท้ เริงล้วนดั่งเดียว บ่นั้น
ขอให้เทศนาซ้ํา สอนธรรมโอวาท จริงเถิ้น
อินทราชท้าว มวลพร้อมพร่ำฟัง
กับทั้งเทวดาด้าว ขงขอบจักรวาฬ
ยังคองฟ๎งคําสอน แห่งพุทโธเป็นเจ้า
ภันเตไหว้ สามทีก้มกราบ
เมื่อนั้น พระย่ําเกล้า ตนล้ําเลิศคุณ
เทศนาซ้ํา สามทีสอนโลก
ดูรา มหาราชเจ้า ตนล้ําเลิศพระยา
ผิว่าให้แม่นธรรมชาติแท้ เมียมิ่งมุงคุล ท่านเอ๊ย
บุญไผหลาย ก็จึ่งหลอนหลงพ้อ
มันหากเริง ๆพ้อ เมียโจรจําจวบ เริงแหล้ว
เจ็ดจําพวกนี้ หลงพ้อแต่ละคน ท่านเอ๊ย
อันว่าอุตตะมะภะริยานั้น มุงคุลเมียประเสริฐ จริงแหล้ว
ทําตนเป็นดั่งข้อย ผัวใช้ช่วงตีน
ข้าวและน้ํา นางก็หากตําตัก
วันคืนลุก ฮุ่งมาเทียมข้าง
ผมฮองไว้ ปลายตีนผัวย่ํา
ขันหมากทั้งน้ําเต้า เทียมไว้บ่ขาดสาย
กินงายแล้ว ผัวนอนวีแกว่ง
บ่ให้ขับแขบได้ กลัวย้านตื่นตน
ไปสังฟ้าว วัง ๆคิดฮอด
มาฮอดบ้าน เห็นหน้าชื่นชม
วันคืนมื้อ ขนขวายอุปัฎฐาก
เฮ็ดให้ปานดั่งข้อย ผัวนั้นดั่งเดียว
แม่นว่าผัวเคียดให้ หน้าก็ชื่นบ่มีคํา
แปงใจงาม ชื่นบานตาหน้า
หวนว่าใจดีขึ้น เมือเฮือนหัวต่อ ดอมนั้น
นางนั้นชื่อว่า อุตตะมะประเสริฐแท้ เมียแก้วยอดนาง แท้แหล้ว
ศีลธรรมฮู้ คลองเคยอุป๎ฏฐาก
ธรรมเทศน์เจ้า ยอย่องซู่พระองค์
คันว่าผัวป่วยไข้ ฟ้าวแล่นวังๆ
รัตตังหน้า ไปมามีแต่ชื่น
มือลูบคั้น คลําเนื้ออยู่เริง
ปัวปิ่นแท้ ทุกค่ําวันคืน
คันว่าหายโภยภัย ก็ชื่นดอมนางนั้น
คันว่าเวรหลังฮ้าง หนีกันปละปล่อย ก็ดี
ของสร้างได้ในย้าว ควรให้แก่นาง
อย่าได้ไง้คําต้าน สวนเอานั้นบ่ ควรแหล้ว
เหตุว่านางนั้นประเสริฐแท้ คุณล้นอเนกนอง ท่านเอ๊ย
นางนั้น คันว่ามรณาแล้ว เมือสู่เสวยสุข
แม่นว่าทัวระเทียวในสงสาร บ่ห่อนเคืองคําฮ้อน
อันนี้ อุตตะมะแท้ มุงคุลอันหนึ่ง พระยาเอ๊ย
สองจําพวกนี้ มาสืบไว้ตามคลอง
บัวระบัดคร้านบายสองมือเทื่อ ได้ลางแล้วเล่าเสีย
หัวเพียงด้าม เสมอผัวชาชั่ง กันนั้น
หลักและใบ้ คําฮู้เกิ่งกัน
ผิว่าป๎นของฮ้าง หนีกันปละปล่อย เมื่อใด
สามโกฏฐาสแท้ เมียได้ส่วนสอง
สองจําพวกนี้ แวนจื่อจําถนัด ท่านเอ๊ย
ในชมพู ก็ย่อมมีเหลือล้น
สามจําพวกนั้น เมียมิ่งมหาอุตม์
ถือผัวเหมือน ดั่งพี่ชายตนแท้
ยามเมื่อผัวเถิงบ้าน ลงจากชานมาฮับห่อ
ข้าวและน้ํา ก็หาไว้ใส่พา
ของกินจ้อย อันใด๋ดีแวนแซบ
บ่ได้กินห่อนท้าว แพงไว้ค่อยถนอม
คันว่าเวลาฮ้าง หนีกันปละปล่อย เมื่อใด๋
สี่โกฏฐาสไว้ให้ นางได้ส่วนสาม
คันว่าตายไปแล้ว มรณาลดชั่ว พระนางนั้น
บ่ห่อนเป็นบาปฮ้าย แฮมเฮื้อคั่วหลง
ยังเล่าได้เกิดพร้อม เมตตรัยหน่อโพธิสัตว์
บ่ห่อนเห็นคําทุกข์ ยากสังสูญต้อง
แม่นว่าทัวระเทียวห้อง สงสารในโลก ก็ดี
บ่ห่อนทุกข์ยากไฮ้ เคืองแค้นเยื่องใด๋
สี่จําพวกนั้น เมียมิ่งโจโร
คันว่ามีของดี เซื่องผัวทอมชู้
มีของจ้อย เก็บหอมเมี้ยนหี่ จริงแหล้ว
ลักเซื่องไว้ ทอมชู้โลภผัว
เกนเกฮ้าย เกเรคนถ่อย จริงแหล้ว
คันว่าผัวจ่มให้ ปูนป้อยตอบเถียง
มันก็อูทูแท้ จอนจอใจบาป พระยาเอ๊ย
คันว่ามีผัวสับส่อเย้า ยงถ้อยชังช้ําต่อผัว
ขนของต้อน ทอมชายซุกเซื่อง
มับแมบเหล้น ใจเลี้ยวโลภพระคุณ
ผัวเห็นฮ้าย วางเสียปละปล่อย
ของที่มันสร้างได้ในเหย้า บ่ควรไว้ล่ําแยง
เหตุว่าผัวชั่วล้น บ่ถือผัวมันโลภ
ตามแต่มันสร้างได้ เมือหน้าก็ช่างมัน
คันว่ามรณาแล้วได้ ไปสู่หม้อนารก
พันปีเนา อยู่นานจมในหม้อ
คันว่าดูเป็นขึ้น มาเทิงนอนอยู่
ไฟจูดท้อง สุมไว้ดั่งขอน
ก็หากทรงทุกข์แท้ พันปีทัดเที่ยง จริงแหล้ว
เหลือหากเฮฮ่ําไห้ แดดิ้นแต่บ่ตาย
เหตุว่ามันโลภเลี้ยว มีชู้กับผัว
ตัณหามัน บ่อิ่มสุมเผาท้อง
คนชายให้ พิจารณาให้ถ้วนถี่ จริงเถิ้น
ไผผู้ยังพวกพร้อม คนฮ้ายบ่ดี ท่านเอ๊ย
มันจักพาไปในหม้อ อเวจีจมจุ่ม จริงแหล้ว
อันนี้สี่จําพวกแท้ เมียฮ้านโลภพระคุณ ท่านเอ๊ย
อันว่าห้าจําพวกนั้น เสมอสิ่งสันเดียว เจ้าเอ๊ย
ใจอูทูและ ชอบนอนเว็นแท้
อุนอูหน้า บ่ถือผัวซ้ำแข็งข่ม
เหมือนดั่งข้าหมอนน้อย มันซื้อไถ่มา
ผัวจ่มให้ ป้อยด่ายํา ๆ
คํามําหน้า จอนจอสบไค่
คันว่าเคียดแต่ละน้อย ใจฟู้ยอกกะแดน"

"ตีนทําด้ง มือบายกระยุงฟาด
มันกะจิกกะแจกจิ้ว ฟงฟู้ทืบเฮือน
ฝูงนี้ คันว่าลดชั่วแล้ว ไปสู่นารก ท่านเอ๊ย
พันปีในเมืองคน ก็จั่งปูนเป็นมื้อ
ก็หากทรงทุกข์แท้ อยู่ในขุมพันชาติ จริงแหล้ว
ของสร้างได้เฮือนนั้น ปันให้ส่วนเดียว
บ่อาจสังขยาได้ กรรมเวรมีมาก จริงแหล้ว
ก็หากจมอยู่พื้น อบายหั้นพร่ำนาน ท่านเอ๊ย
ท่อว่ายังโผดได้ พระเจ้าชื่อเมตตัยโย
เจ้าก็เอาสวิงคํา ต่งเอากะยังได้
หกจําพวกนั้นฮ้าย ยิ่งแวนถนัด ท่านเอ๊ย
มันก็ปองทําเวร แก่ผัวบ่มีแล้ว
ลางเล่าผลาญผิดฆ่า ผัวตายคืนครอบ เริงแหล้ว
ฆ่าด้วยหอกแล้วง้าว ทั้งง้วนเบื่อตาย
ฝูงนี้ลงไปไหม้ อเวจีจมอยู่ ภายพุ้น
เนาพ่างพื้น ในหม้อแผ่นแดง
บ่อาจนับอ่านได้ ในชาติอเวจี ท่านเอ๊ย
ของสร้างมีในเฮือน บ่ห่อนปูนป๎นให้
เจ็ดจําพวกนั้น เมียมิ่งอลัชชี ท่านเอ๊ย
มันท่อแปงคําตั๋ว หล่ายผัวยัวเย้า
แปงแถลงลิ้น หวานหูดูค่อง คือนั้น
ลางเทื่อตกบาดฆ่า เสียซ้ํา ชาติเริง
มันหากสอนผิดแท้ ทั้งงอนสับหลับยิ่ง จริงแหล้ว
การเวียกคร้าน ทั้งซ้ำมักกิน
คันหนีฮ้าง ของปันสามส่วน
ให้แบ่งไว้ นางน้อยส่วนเดียว
นางนั้นตายลวดได้ เป็นเปรตทรงทุกข์ ท่านเอ๊ย
ในเมืองคน ท่องเทียวกะทําฮ้าย
เจ็ดจําพวกนี้ คนิงฮ่ำเพิงคิด ท่านเอ๊ย
เอาเมียคนโทสา กล่าวโอมเอาได้
พาทําสร้าง นากินสมโทษ นางนั้น
ฮ้ายว่าข้อย คันดีแท้จั่งว่าเมีย หั้นถ้อน
อันหนึ่ง เอาด้วยโภยภัยต้อง โรคาไข้ป่วย ก็ดี
เอาคราวอึดยากแค้น แคลนเข้าเพิ่งพา
อันหนึ่ง เอาด้วยอํานาจกล้า แข็งข่มชูเต็ง
เอาด้วยการกลางเศิก ยาดชิงเอาได้
อันหนึ่ง ปละปล่อยอ้าง มีห้าสี่สามประการ ท่านเอ๊ย
คือว่าฮ้างด้วยการกลางเศิก แตกโตนหนีฮ้าง
ฮ้างหนึ่งนั้นโรคาเข้า เถิงตนบังเบียด
ทั้งเพิ่นพุ้น ทั้งเบื้องฝ่ายโต
ฝูงนี้ของแบ่งไว้ สามส่วนเพิงคึด
ปูนเอาพอ ส่วนเดียวหนีฮ้าง
อันหนึ่งนั้น หนีคอบผีสาง
ผีจังไฮ บาปไหมหมูเหล้า
ของหนีฮ้าง เอาสามโกฏฐาส
ไว้ฝ่ายเบื้อง นางน้อยส่วนสาม
ฮ้างหนึ่งนั้น หนีคอบเมียตน
ใจเมียแฮงทางกาม ชั่วทรามทําชู้
ตัณหาฮ้อน สงวนชายชมใหม่
ของสร้างได้ในเหย้า บ่ควรให้แก่มัน ท่านเอ๊ย
อันนี้ ตราดูห้อง ภริยาเจ็ดจําพวก พระยาเอ๊ย
ทั้งส่ำฮ้าง ทั้งห้าแบ่งของ แท้แหล้ว
อันหนึ่ง ฝูงเขาหม้าย ผัวตายหนีก่อน ก็ดี
อันนั้น เป็นเวรก่อนพุ้น เขาได้แต่งงาน
ผัวเคียดให้ เมียเล่ายังใส
ก็บ่เป็นคําเดียว ค่องกันปางนั้น
แล้วจั่งเป็นคําหม้าย ผัวตายเสียก่อน จริงแหล้ว
ของสร้างได้เฮือนนั้นพงศ์เชื้อ อย่าได้ไถ่เอา ท่านเอ๊ย
อันหนึ่ง เมียหนีหม้าย มรณาตายก่อน ก็ดี
อันนั้น เขาได้ยาดดอกไม้ บูชาเจ้ายอดธรรม แท้แหล้ว
ก็จึงลงพบพ้อ พอประมาณคลาคลาด จริงแหล้ว
ลางเล่าเวรก่อนกี้ กุมป้องใส่กัน ท่านเอ๊ย
เจ้าก็เทศนาแล้ว ตุณโหปะโชค
พระยาก็นบนอบไหว้ วานน้อมเหนี่ยวพุทโธ
ภันเตพร้อม ทั้งอินทร์องค์ประเสริฐ
ขอแก่พระย่ําเกล้า ตนล้ําเลิศพระคุณ
ปลงให้เทศนาซ้ํา สอนธรรมเทียมโลก จริงเถิ้น
เทวดาฮู้แล้ว คนเว้าต่อไป
อันว่าหลานลูกเต้า ฝูงหมู่วงศา ก็ดี
ยังจักเป็นคุณโณ ประเสริฐดีดอมเฒ่า บ่ฮู้
เมื่อนั้น นาโถเจ้า เทศนาไขอูบ
ดูรา มหาราชเจ้า ตนล้ําเลิศพระยา
อันว่าบุตราชนี้ มีห้าประการทัด ท่านเอ๊ย
คือว่าอุตตะมหาอุตม์ ประเสริฐดีดอมเฒ่า
คือว่าถนอมตนเข้า ในคลองพุทธบาท
เพียรพร่ำพร้อม ประสงค์สร้างสูตรเฮียน
ฮุ่งมื้อเช้า บิณฑบาตมาสัน
ตามคลองธรรม เทศนาสอนไว้
ภาวนาเข้าค้ํา คุณโณพ่อแม่
ทั้งชาตินี้ภายหน้ พาพ้นหลีกเวร
แม่นว่าไปสู่เงื้อม ทางฮ่อมหม้อนารก ก็ดี
ยังเล่าเป็นขัวคํา ก่ายถองเถิงฟ้า
ลูกหนึ่งนั้นอุป๎ฏฐากแก้ว พ่อแม่ในเฮือน
หลัวฟืนทั้งตําตัก บ่ให้เคืองคําฮ้อน
บัวระบัดเท่า ทั้งสองพ่อแม่
บ่ให้อึดอยากแท้ สังนั้นซู่ยาม
ของกินจ้อย อันใด๋ดีกินแซบ
อุปัฏฐากแก้ว ทั้งน้ําอาบกิน
ขี้เยี่ยวล้าง ผมย่ำฮองตีน
ทําคุณเหมือน เมื่อโตยังน้อย
ลูกหนึ่งนั้นนาสวนสร้าง สรรพอันต้อนหลี่
แหน่างน้าวยูได้สู่กิน
ข้าวโคดพร้อม ทังหมู่ชาลี
แตงโมทั้ง หมู่จิงแตงช้าง
ทั้งสองข้าว นาสวนเฮืองเฮื่อ
ฮางและเหม้า ถนอมไว้พ่อแม่ตน
ลูกหนึ่งไปแสวงค้น ขนขวายมาใส่ เฮือนนั้น
มูลมากล้น สินช้อยมั่งมี
แพรและผ้า ลั้วอ่อนเงินคํา
ยูกินทาน ซู่วันมีพร้อม
ลูกหนึ่งอาสาค้ํา การเมืองภูวนาท
ไกลและใกล้ วันค้ำบ่ให้เคือง
อันว่าห้าจําพวกนี้ บุตราชหญิงชาย ก็ดี
ในธรรมเฮา ก็หากหวนเห็นแจ้ง
หญิงชายนั้น ก็สันเดียวเสมอภาค จริงแหล้ว
ของแจ้งไว้ หลิงแล้วจั่งเป็น ท่านเอ๊ย
อันว่าผู้บวชเข้า ในศาสนาทิพย์
ยังเล่ามีคุณคาม กว่าเขาฝูงนั้น
ของปันให้ พอหวนหกพูด พระยาเอ๊ย
มันผู้ค้ํา ทั้งน้ําอาบกิน
สี่พูดนั้น สมแห่งคุณมัน
กับทั้งมันผู้ทํานาสวน เกิ่งกันโดยแท้
มันผู้ไปเทียวค้า ขนขวายมาใส่ เฮือนนั้น
สามโกฏฐาสไว้ มันค้าใส่เฮือน ท่านเอ๊ย
มันผู้อาสาค้ำ การเมืองตางพ่อ
ให้แบ่งไว้ มันนั้นส่วนสาม ท่านเอ๊ย
อันว่าฝูงพี่น้อง เชื้อชาติวงศา ก็ดี
ลางเล่า เป็นกรรมเวร แก่กันเหลือล้น
ลางเล่า อุตตะมะแท้ กรรมกันลงเกิด ก็มี
ยามเมื่อ โภยถืกต้อง ไผมาช้วนช่อย
สิ่งใด๋ว่าอุตตะมะแท้ พันธูอันประเสริฐ
ลางเทื่อท่านต่างห้อง คาแค้นคาดไกล ท่านเอ๊ย
ไปร่วมกันชาตินี้ ฮักยิ่งยังกัน
อันนั้น ได้ชื่อว่าพันธูจิต แต่หลังหลงพ้อ
สมควรแล้ว เทศนาสอนโลก พระยาเอ๊ย
ท่านจงจําจื่อแจ้ง คํานี้อย่าลืม นั้นเนอ
นิฏฐิตาแล้ว ปัสเสนหลวงพระยาใหญ่
ถวยดอกไม้ บูชาเจ้าเทศนา
กับทั้งอินทร์พรหมพร้อม เทวดาหลายหมื่น
ฮื่น ๆ เค้า เต็มข่วงอารามหลวง
ผายมาลา หว่านถวยบูชาเจ้า
กัณฑ์สามถ้วย เทศนาสอนโลก
พระย่ำเกล้า ตนล้ำเนิ่งพระองค์
อันนี้ พอแต่แปลปะเหียรไว้ เตือนตนตามฮีต คลองนั้น
หลอนว่าพ้อผู้นักปราชญ์เจ้า เห็นหั้นฮ่ําคนิง บ่ฮู้
เฮียมก็จักฮอมไว้ เป็นหอยเทียมโลก อวนเอ๊ย
ฝูงหมู่หลักและใบ้ เบาตื่มคําสอน นี้แหล้ว
อันนี้ ฮ้อยว่าอินทาท้าว จําแปงสอนโลก จริงแหล้ว
ฝันว่าอินทิราชเอาดอกไม้ บูชาเจ้าเทศนา
จึงได้แปลปะเหียรไว้ ตามคลองด้วยเหตุ มีนั้น
ไผผู้ยังประมาทแท้ ธรรมเจ้าบาปมี ท่านเอ๊ย
อันนี้ ในธรรมแท้ ฎีกามหาโยชน์ ภายพุ้น
ไผผู้คึดม่อตื้อ เตือนเจ้าก็ช่างมัน
เลิ้กแลบนําข้อ ขอพรอนุญาต ดอมถ้อน
ถวยแก่สาวส่ําหม้าย ทั้งฮ้างฮ่ำคนิง แด่ถ้อน
เคียดท่อหีนะชนมาชิงเว้า คําสูงเสินกว่า โตนั้น
ฮีตบ่มีเม็ดชะดี้ ชะเด็นน้อยหนึ่งดอม
ก็ไป่ได้เฮียนเถิงถ้วน คลองขุนฮีตสองฮีต สังนั้น
เคียดท่อถืกเป็นง่าวง่วง ยอฐานถ้อยถี่เถิง นั้นเด๊
เยียวว่าขํากะดัดหรื่อ เห็นเงามาตื่นมั่ง ป้าดโทเด๊
มาบ่ย้านเพิ่นหัวไขแข้ว ขวานไซชอกเตินตึง
ตางให้เป็นเกณฑ์เว้า ลือชาทั้งโลก เฮานี้
เป็นที่สังเขตไว้ คนเว้าเมื่อลุน บ่ฮู้
คราวแต่เค้า ปางก่อนองค์กษัตริย์
ศาสนายังเจือจบ ก็ไป่มีมารม้าง
เสวยเมืองสร้าง กษัตราองค์หล่อ ยังนั้น
อนาคตยังเกิดพร้อม เมืองบ้านอยู่กระเสริม
ศาสนาเถิงพัน อรหันตาสังเขต พ่อแหล้ว
พระหากเทเทศน์ไว้ ในหั้นยอดธรรม
คันว่าศาสนากลายพัน สังเขตเมื่อใด๋
นักขัตฤกษ์ฟ้า ทั้งซ้ำเคียดคราว
อังคารพร้อม จันทจรหนีเมฆ
ปะหัสอยู่ย่อง ในฐ้านเศษศูนย์
ดักด่วนเข้า แทนที่เมถุน
กุญชะโรหนี หลีกมีนมวลม้าง
ราหูเข้า เฮียงจันทร์เจียระคาต
ศุกร์เคียดค้อย คาค้างคาตธะนู
ในกงแก้ว ราศีสูรย์เมฆ ฝูงนี้
กลียุคขําเขือกฮ้อน เมืองบ้านบ่สบาย
แม่นว่าสังฆะเจ้า ภายในนักบวช ก็ดี
ยังจักปูนแป่ม้าง ธรรมเจ้าศาสนา
แม่นว่าองค์กษัตริย์เจ้า ชายาทรงแท่น ก็ดี
ไพร่จักปูนแป่ม้าง เมืองบ้านยับยืน
ลูกศิษย์ม้าง ฝูงหมู่ครูบา
เมียเถียงผัวผิด แตกกันกวนม้าง
บุตราม้าง คุณคามพ่อแม่ มีนั้น
นักปราชญ์ม้าง คลองตั้งแต่ปฐม
โจโรม้าง เจดีย์พุทธรูป
ฝูงนี้เป็นบาปฮ้าย อนันต์ตื้อติ่วอสงขย์
ฝูงนี้ตายเกิด แล้วเกิดตายไป
เหมือนดั่งคนเทียวทาง โจทก์ถามเอาหนี้
อันนี้เฮียมเห็นแล้ว แปงสาส์นสอนลูก เฮียมนี้
หลอนว่ามีผู้คึดสะเหลือดฮู้ ยังสลั่งฮอดเฮียม บ่ฮู้
ไผผู้ถามเถิงหน้า เฮียมสิบนบอกชื่อ เฮียมแหล้ว
เฮียมนี้ชื่อว่าราชพราชแก้วแก่นชั้น แปงไว้สั่งสอน
อันว่าคนฝูงบ้า อย่าโชซ้ำเกิด หลายเนอ
คนผู้การเวียกคร้าน อย่าซาซ้ําตื่มนอน
คนฦงตนโตสั้น อย่าโชซ้ําต่ำ หลายเนอ
คนผู้สูงกีดด้าม อย่าซ้ําตื่มสูง
คนขาวแล้ว อย่ามาโชซ้ําขมอด หลายเนอ
ให้ค่อยติดต่อสร้าง เฮือนเหย้าสืบกิน
คนมีแล้ว อย่ามาโชซ้ําอีก หลายเนอ
ขําเขือกฮ้อน ตายเฝ้าเวทนา
ฝูงใด๋มีเฮือนแล้ว อย่าโชฮามฮ้างก่อน กันเนอ
ให้ค่อยเลี้ยงลูกเต้า เพียรสร้างสืบทาน ท่านเอ๊ย
ฝูงใด๋เป็นหม้ายฮ้าง ฮีบฮ่ําคนิงคิด อีกเนอ
อย่าอยู่เดียวตนตัว สิห่างเฮือนเฮียมสร้าง
ฝูงใด๋ยังไป่มีสองซ้อน ก็ทําเพียรเข็นค่ํา จริงเถิ้น
ฝูงใด๋ฮามที่ซ้อน อย่าซ้ำตื่มโถง นั้นเนอ
อันนี้ เฮียมก็แปงปะเหียรไว้ ตามตนสอนลูก หลานนั้น
หลอนว่ามีผู้ฮู้ เห็นสะลั่งฮอดเฮียม บ่ฮู้
เฮานี้ผงธุลีแท้ ธรรมเนียมแนมโลก มานี้
พอแต่เตินต่อยให้ ตามไต้ตื่มพระจันทร์
อันว่านักปราชญ์เจ้า ฝูงสลาดบัณฑิต
ให้ค่อยหลิงนิทาน แค่หลังเฮาฮู้
เฮียมบ่ได้หวลหาเหล้น ผญาเบาตื้นม่อ สังนั้น
บ่ได้อามิสด้วย แหลมส้วยสิ่งกระสวย
เพิ่นหากลือชาแหล้ว นรสารสิงคะเรศ ลือแหล้ว
เมียมิ่งโลภเลี้ยว โถงถ้อยซู่คน
ฮ้ายบ่ต้อนก้นอันนี้บ่ได้ผวนผิดถ้อย คําเสินสีสั่ง ไผนั้น
เคียดท่อฝูงพี่น้อง พงศ์เชื้อบ่แก่นเคย
คึดดูเห็นเช่นเฒ่า ปางก่อนลุงตา ที่พุ้น
ลางพ่องปองให้กันดับ บ่ห่อนดีภายหน้า
ฝูงหมู่ลูกเต้า เมียมิ่งคนฮัก ก็ดี
เป็นแต่ทานภายหลัง ต่างเกณฑ์หนีหน้า
บรบวรแล้ว นรสาส์นสิงคะเรศ
นักปราชญ์เจ้า ฟ๎งแจ้งฮ่ําเพิง หั้นถ้อน
ไผบ่ฮู้ สุภาษิตแห่งธรรมบท
คือดั่งเดียรัจสานสัตว์ ถ่อยผญาสูญเศร้า
อันว่าหอมสนิดนั้น ดวงศีลหอมยิ่ง เฮาเอ๊ย
ดวงดอกไม้ หอมแล้วก็เล่าเหย แท้ดาย
อันว่าหวานสนิดนั้น ธรรมพระองค์ก็ยังยิ่ง เฮาเอ๊ย
อ้อยว่าหวานเลิศล้ํา ลางบ่อนกะยังจาง
อันว่าแหลมกว่าแหลมนี้ ผญาตนก็ยังยิ่ง เฮาเอ๊ย
หอกและง้าว แหลมแท้กะไป่ปาน
อันว่ายาวโยชน์แท้ ในยอดฏีกา เจ้าเอ๊ย
เมื่อจักแปลไปหลาย ยืดยาวก็ยังกว้าง
สมควรแล้ว แปลหลายก็ดูมาก
ธรรมบทเจ้าผูกต้นบ รบวรแล้วบ่หลอ เจ้าเอ๊ย
ไผผู้โจทนาไว้ ถามหานามชื่อ อี่เฮียมนี้
ชื่อว่าโสมเสลาพระราชแก้ว ให้แปงไว้สั่งสอน พี่เอ๊ย
โอนอ เฮียมเอ๊ยให้น้องทําบุญสร้าง ปารมีผายเผื่อ แด่ถ้อน
ให้เจ้าพันปีไว้ พันลําไว้ชันก่อน
อย่าให้มีผู้เข้าฮ่วมซ้อน เฮียงน้องจากพี่ชาย เฮียมนี่"
                            "อวสาน"
มีอะไรผิดพลาดขาดตกบกพร่องในนามของ panyawachiro sakyaputto/ปัพพชิตา ปัญญาวชิโร/จารย์แหม่ม ปากแป ก็ต้องกราบขออภัยต่อท่านผู้รู้มา ณ โอกาศนี้ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนทำอะไรไม่ค่อยละเอียด ความรู้น้อย เวลาทำอะไรก็จะทำแบบรีบๆ ยังไงไว้โอกาศหน้าจะกลับมารับใช่ใหม่ เอวํ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น